สื่อท้องถิ่นของเยเมนรายงานว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายอย่างน้อย 2 คนได้กดชนวนระเบิดที่มัสยิดบาเดอร์ทางตอนใต้ของกรุงซานา และมัสยิดาอัล -ฮาชูช ทางตอนเหนือของกรุงซานา ระหว่างพิธีละหมาดในช่วงบ่ายของวันนี้ มีผู้เสียชีวิต 50 ศพ บาดเจ็บราว 100 คน สำหรับมัสยิด ดังกล่าวใช้ทำพิธีละหมาดโดยชาวมุสลิมชีอะห์ที่สนับสนุนกลุ่มกบฏฮูธิ ซึ่งควบคุมกรุงซานา ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ แต่กลุ่มอัลกออิดะห์เคยทำการโจมตีในลักษณะคล้ายกันนี้ เครือข่ายในท้องถิ่นของกลุ่มอัลกออิดะห์ ให้คำมั่นว่าจะเผชิญหน้ากับกลุ่มฮูธิ หลังการบุกยึดครองเมืองหลวงเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน พร้อมเคลื่อนกำลังเข้ายึดครองชุมชนชาวสุหนี่ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตกของเยเมน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เพิ่มเติมว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายมีจำนวน 3คน มือระเบิดคนแรกโจมตีภายในมัสยิดบาเดอร์ ทำให้ประชาชนแตกตื่นวิ่งหนีกันอลหม่าน จากนั้นมือระเบิดอีกคนหนึ่งที่รออยู่หน้าประตูทางออกก็จุดชนวนระเบิดซ้ำอีกขณะประชาชนกำลังวิ่งกรูกันออกมาส่วนระเบิดลูกที่ 3มือระเบิดโจมตีมัสยิดอัล-ฮาชูช ซึ่งทั้ง 2แห่งเกิดขึ้นระหว่างชาวบ้านประกอบพิธีสวดมนต์ในช่วงกลางวันของวันศุกร์
สถานีโทรทัศน์ของกบฏฮูธิรายงานว่าโรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองหลวงต้องประกาศขอรับบริจาคเลือดอย่างเร่งด่วนการโจมตีหลายระลอกครั้งนี้นับเป็นเหตุรุนแรงที่สุดตั้งแต่เกิดเหตุระเบิดรถยนต์สังหารประชาชนไป 40ศพและบาดเจ็บอีกจำนวนมากที่วิทยาลัยตำรวจในกรุงซานาเมื่อเดือนม.ค. ขณะที่ตำรวจใหม่เข้าแถวลงทะเบียน และเป็นเหตุรุนแรงหลังเกิดเหตุปะทะในเมืองเอเดน ทางภาคใต้ของประเทศ ระหว่างกองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอับดราบูห์ มันซูร์ ฮาดี กับกลุ่มผู้สนับสนุนผู้นำคนก่อนคือ อดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ก่อนหน้านี้ นายซาเลห์ยอมลาออกและส่งมอบตำแหน่งให้แก่นายฮาดีเมื่อปี 2554 หลังการประท้วงใหญ่ แต่เขายังทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยเพื่อสร้างความปรองดองในประเทศ นอกจากนั้นในปัจจุบันเขาได้จับมือเป็นพันธมิตรกับกลุ่มกบฏฮูธิ ซึ่งเขาเคยประกาศทำสงครามด้วยในช่วงที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี