เงินบาทปิดตลาด อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 7 ปี อยู่ที่ 36.51 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

          เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.51 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือน ต.ค.58 จากเปิดตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 36.27 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 36.16 - 36.51 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากเงินบาทยังไม่มีปัจจัยบวก หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมายืนยันจะไม่มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษจนกว่าถึงรอบการประชุมตามปกติในเดือน ส.ค.65  กำหนดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.40 - 36.60 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ

          ส่วนเงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.77 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 137.96 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0039 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0019 ดอลลาร์/ยูโร

          ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,536.82 จุด ลดลง 9.98 จุดมูลค่าการซื้อขาย 61,695.41 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,437.19 ล้านบาท(SET+MAI)

          สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ที่สำรวจในเดือน มิ.ย.65 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 64.57 ปรับตัวลดลง 23.1% จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ในเกณฑ์ซบเซาเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน

          ด้านธนาคารกลางในต่างประเทศ ประกาศขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ เช่น ฟิลิปปินส์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% สู่ระดับ 3.25% ในการประชุมวันนี้

          ธนาคารกลางแคนาดา ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% สู่ระดับ 2.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้

          ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศจับตาการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในจีน

         ส่วนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ สหรัฐในปี 2565 ลงเหลือ 2.3% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.9% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน IMF เตือนว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับความท้าทายในการหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย

#วิกฤตเศรษฐกิจ