นายแอนดรี เยอร์มัค หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างคณะผู้แทนจากยูเครน รัสเซีย ตุรกีและสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ในนครอิสตันบูล ตุรกีเมื่อวานนี้ ทั้งสามฝ่ายเห็นพ้องให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานร่วมภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ยูเอ็น เพื่อให้มั่นใจว่า เรือสินค้าที่บรรทุกข้าวเปลือกของยูเครนสามารถแล่นผ่านทะเลดำอย่างปลอดภัย
ศูนย์ประสานงานจะตั้งอยู่ในนครอิสตันบูล ของตุรกี มีหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ทั่วไปและประสานให้มีการแล่นเรือในทะเลดำอย่างปลอดภัย ในปัจจุบัน ข้าวเปลือกกว่า 20 ล้านตันยังคงติดค้างอยู่ในโกดังสินค้าของท่าเรือในยูเครน นับตั้งแต่รัสเซีย ปิดล้อมทะเลดำเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้ยูเครน ไม่สามารถส่งออกข้าวเปลือกสู่ตลาดโลก ในช่วงก่อนเกิดสงคราม ร้อยละ 80 ของข้าวเปลือกจากยูเครนถูกส่งออกทางเรือผ่านทะเลดำ
ก่อนเกิดสงคราม ข้าวสาลีจากยูเครนและรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนรวมกันเกือบร้อยละ 30 ของการซื้อขายข้าวสาลีทั่วโลก ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่า ยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก และเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับที่ 5 ของโลก
ด้านโครงการอาหารโลกของยูเอ็น ซึ่งช่วยแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารทั่วโลกได้สั่งข้าวสาลีครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดของยูเครนในแต่ละปี พร้อมเตือนผลกระทบร้ายแรงปัญหาขาดแคลนอาหารทั่วโลก หากยูเครนยังไม่สามารถส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก
#ยูเครน
#การส่งออกสินค้าเกษตร