ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯที่ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเยือนกรุงเยรูซาเล็ม อิสราเอล โดยมีกำหนดงานหารือกับ นายกรัฐมนตรียาอีร์ ลาปิด ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซอก รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านของอิสราเอล แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในการเยือนครั้งนี้ จะลงนามในข้อตกลงร่วมกัน เพื่อสกัดกั้นอิหร่านไม่ให้ทดลองอาวุธนิวเคลียร์สำเร็จ พร้อมทั้งจะมีปฏิบัติการทางทหารโจมตีโครงการพัฒนาอาวุธต่างๆของอิหร่าน แม้จะกระทบต่อความมั่นคงของอิสราเอล โดยข้อตกลงสะท้อนความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งสอง ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมายาวนาน
ส่วนในวันพรุ่งนี้ นายไบเดนจะไปพบกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตไน์ในนครเบธเลเฮมในเขตเวสต์แบงค์ พร้อมประกาศแผนช่วยเหลือทางการเงินแก่ปาเลสไตน์ สำหรับเรื่องปัญหาพิพาทเรื่องดินแดนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ นายไบเดนเสนอทางออกคือ การจัดตั้ง 2 รัฐคือ รัฐอิสราเอลและรัฐปาเลสไตน์ ให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
จากนั้น นายไบเดนจะไปเยือนซาอุดิอาระเบีย เพื่อประชุมกับผู้นำรัฐบาลซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรอื่นๆในตะวันออกกลางที่เมืองเจดดาห์ในวันเสาร์นี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของตะวันออกกลางส่วนใหญ่ คาดว่า นายไบเดนจะเจองานหนักอีกด้านหนึ่งคือ การหาทางโน้มน้าวให้อิหร่านยอมกลับเข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามกับ 6 มหาอำนาจของโลกคือ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมนี รัสเซียและประเทศจีนในปี 2558 หลังอิหร่านขู่จะไม่ทำตามข้อตกลง เพราะ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ถอนชื่อสหรัฐฯจากข้อตกลงดังกล่าวในปี 2561 เอง
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า นายไบเดนอาจจะเจอคำถามจากอิสราเอลและพันธมิตรในตะวันออกกลางเช่น ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มหาอำนาจของโลกลงนามไว้กับอิหร่าน รวมทั้งคำถามว่า สหรัฐฯมีแนวทางอย่างไร เพื่อยับยั้งการขยายอิทธิพลทางทหารของอิหร่านในตะวันออกกลางเช่น เลบานอน ซีเรีย เยเมนและอิรัก
ส่วนหัวข้ออื่นๆที่นายไบเดนจะหารือกับผู้นำอิสราเอลและพันธมิตรในตะวันออกกลาง คือ สถานการณ์สู้รบในยูเครน การหารือกับผู้นำรัฐบาลซาอุดิอาระเบียในเรื่องราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า นายไบเดนจะขอให้ซาอุดิอาระเบีย ผู้นำกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก)ผลิตน้ำมันมากขึ้น เพื่อให้ราคาน้ำมันลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันแพงส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯพุ่งขึ้นร้อยละ 9.1 ในเดือนมิถุนายน สูงสุดในรอบ 40 ปี
#ผู้นำสหรัฐฯ
#เยือนตะวันออกกลาง