หลังการเข้าให้ปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมงของพระมนตรีสุดาภาโส พระลูกวัดพระธรรมกาย และพระครูปลัดวิจารย์ ธีรังกุโร ต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ ซึ่งมีพ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้อำนวยการส่วนตรวจ 2 สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ เป็นผู้สอบสวนด้วยตัวเอง นายปรัชญา ก้อนจันทร์ ทนายความพระครูปลัดวิจารย์ ระบุยอมรับว่า พระครูปลัดวิจารย์ได้รับเงินจำนวน 119 ล้านบาทมาจริง แต่ไม่เปิดเผยว่าได้มาในรูปแบบใด แต่ยืนยันว่าไม่ได้รับมาในรูปแบบเช็ค พร้อมระบุว่าพระครูปลัดวิจารย์ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับวัดพระธรรมกาย โดยเป็นพระในวัดคลองเกตุ จ.ลพบุรี และเงิน 119 ล้านบาทที่ได้มาก็นำไปสร้างศูนย์อบรมเยาวชนและบำรุงกิจการต่างๆของสงฆ์หมดแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าหากดีเอสไอหรือหน่วยงานอื่นต้องการให้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนตัวและพระครูปลัดก็ยินดี เพราะบริสุทธิ์ใจ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกมาให้ปากคำเพิ่มอีก และไม่ทราบด้วยว่าเส้นทางเงิน 119 ล้านบาทมีที่มาอย่างไร ด้านพระครูปลัดวิจารย์ ก็ระบุเพียงสั้นๆว่าให้สอบถามกับดีเอสไอเอง ส่วนตัวไม่ขอพูดถึงการให้ปากคำในวันนี้
ส่วนพระมนตรีสุดาภาโส พระลูกวัดพระธรรมกาย ก็ยืนยันเช่นเดิมว่า ไม่ได้รับเช็คมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ และไม่ได้สนิทสนมกับนายศุภชัย และพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และจนถึงขณะนี้ก็ไม่มีการพูดคุยใดๆกับบุคคลทั้งสองต่อกรณีดังกล่าว พร้อมระบุว่า เป็นแค่พระลูกวัดธรรมดา ส่วนเงินที่ได้มาจำนวน 5 ล้านจนถึงปัจจุบัน เป็นเงินที่นายศุภชัยโอนเข้าบัญชีโดยตรงเพราะนายศุภชัย ต้องการทำบุญ ซึ่งไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ยักยอกมาจากสหกรณ์จริงหรือไม่ และตัวเองก็นำเงินไปใช้หมดแล้วในโครงการผลิตสื่อเพื่ออบรมสามเณรตั้งแต่ปี 2552 และยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆในด้านคดีจากหน่วยงานอื่นๆทั้งสหกรณ์หรือหน่วยงานรัฐบาล ทั้งนี้ได้ตั้งทนายไว้แล้ว หากมีการดำเนินคดีใด ส่วนการให้ปากคำในวันนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ด้านพ.ต.ท. ปกรณ์ ระบุว่า การให้ปากคำในวันนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ซึ่งตัวเองได้บันทึกข้อมูลลงในสำนวนและอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และคงไม่เรียกพระทั้งสองรูปมาให้ปากคำเพิ่มอีกในขณะนี้ โดยในวันนี้ถือว่าเชิญมาในฐานะพยานปากหนึ่งของคดี ส่วนวันที่ 26 มีนาคม ที่เป็นวันเรียกพระธัมมชโย มาสอบปากคำนั้น ยังไม่ได้คิดถึงการออกหมายจับพระธัมมชโย หากไม่มาตามหมายเรียก ส่วนตัวขอให้รอดูก่อนว่าพระธัมมชโยจะมาหรือไม่
ธีรวัฒน์