กรณีที่สหกรณ์ถอนฟ้องวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโยหลังคืนเงิน 684 ล้านบาท ให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุว่า คดีนี้แบ่งได้สามส่วน ในส่วนการยักยอกเป็นความผิดที่ยอมความได้ แต่ฉ้อโกงถึงแม้คู่ความจะยอมความแต่หากมีความผิดจริง หน่วยงานก็ต้องดำเนินคดีต่อไป ขณะนี้ ดีเอสไอยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย เพราะยังต้องรอพยานหลักฐานจากพนักงานสอบสวนก่อน โดยขณะนี้ดีเอสไอแจ้งความกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯไปแล้ว 3 คดีเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยืนยันว่าหากมีการสอบสวนไปถึงผู้ใด จะดำเนินคดีต่ออย่างแน่นอน โดยจากนี้ดีเอสไอจะประสานงานกับกรมบังคับคดีเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินให้มากขึ้น ยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร สอบปากคำไปแล้ว 43 ปาก และได้รับเส้นทางการเงินจากธนาคารมาแล้วร้อยละ 50 โดยดีเอสไอได้แบ่งชุดทำงานออกเป็น 5 ชุดเพื่อความรวดเร็วในการทำงาน และจากนี้จะประชุมชุดสอบสวนร่วมกันในทุกวันศุกร์ด้วย
และช่วงบ่ายนี้ พระมนตรีสุดาภาโส พระวัดธรรมกาย เดินทางมาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ปฎิเสธว่า ไม่เคยรับเช็คมูลค่า100ล้านบาทจากนายศุภชัย แต่ยอมรับว่า นายศุภชัยเคยโอนเงิน5ล้านบาทเข้าบัญชีส่วนตัว ตั้งแต่ปี 2552- ปัจจุบันและได้นำเคยจำนวนดังกล่าวไปดูแลสามเณร วันนี้ได้นำเอกสารการเงินทั้งหมดของตัวเองมาชี้แจงยืนยันความบริสุทธิ์ด้วย ขณะเดียวกันพระครูปลัดวิจารย์ ก็ได้เดินทางมาถึงแล้วเช่นกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ข้อมูลกับดีเอสไอ อย่างไรก็ดีในวันนี้ พระพุทธะอิสระ ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กรรมการมหาเถรสมาคม ด้วย
ธีรวัฒน์