การประชุมจี-20 จบแบบไม่มีข้อสรุป แนวทางบรรเทาผลกระทบสงครามยูเครน

          ที่ประชุมรัฐมนตรีการต่างประเทศของกลุ่มประเทศจี-20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ไม่สามารถหาข้อตกลงในประเด็นที่เกี่ยวกับสงครามยูเครน และผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งการประชุมยังจบลงโดยที่ไม่มีการถ่ายรูปหมู่หรือแถลงการณ์ร่วมเหมือนกับในการประชุมครั้งก่อน ๆ โดยมีเพียงมติร่วมกันในการเรียกร้องให้ยุติสงครามในยูเครน และขอให้รัสเซียยุติการปิดล้อมเส้นทางการขนส่งธัญพืชออกจากทะเลดำ และทะเลอาซอฟ เพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลก

          สำหรับกลุ่ม จี20 ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 19 ประเทศ และสหภาพยุโรป (อียู) นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีการต่างประเทศอินโดนีเซีย เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกจี-20 ก้าวข้ามความไม่ไว้วางใจ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกประเทศทั่วโลกที่กำลังเผชิญความท้าทายหลายประการ ทั้งสถานการณ์ของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และสงครามยูเครน ประเทศที่ยากจนและกำลังพัฒนากำลังเผชิญภาวะขาดแคลนพลังงานและธัญพืช ซึ่งจี-20 ต้องร่วมกันรับผิดชอบด้วยการยกระดับความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งในการแถลงปิดการประชุม นางเร็ตโน กล่าวว่า การรวมตัวของจี-20 ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งพหุภาคี และเป็นสิ่งสำคัญที่แม้จะมีความท้าทายระดับโลกแต่รัฐมนตรีต่างประเทศก็ยังสามารถประชุมในห้องเดียวกันได้

          อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของการประชุมมีการแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 กลุ่มชัดเจน เมื่อนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศรัสเซีย ร่วมประชุมในห้องเดียวกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน แต่ทั้ง 2 คนมีท่าทีเพิกเฉยต่อกันอย่างชัดเจน

          ในระหว่างที่มีการประชุม นายลาฟรอฟยังเดินออกจากที่ประชุมอย่างน้อย 2 ครั้ง เมื่อมีรัฐมนตรีการต่างประเทศกล่าววิจารณ์รัสเซีย ซึ่งเขาเห็นว่า ประเทศตะวันตกพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงปัญหาเศรษฐกิจโลก

          การประชุมครั้งนี้ ยังเริ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายบอริส จอห์นสัน ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ทำให้รัฐมนตรีการต่างประเทศต้องเดินทางกลับในทันที

          และในระหว่างที่มีการประชุม ยังเกิดเหตุลอบสังหารนายชินโซะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

...

#จี20

#อินโดนีเซีย