นางตินา เต็ง นักวิเคราะห์จากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบลดลงในช่วงแรกของการซื้อขายวันนี้ (8 กรกฎาคม 2565) เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบที่อาจตึงตัวจากการผลิตลดลงทั่วโลก และหวั่นวิตกว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอาจจะทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบอ่อนแอลง
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ที่ตลาดกรุงลอนดอน อังกฤษ ลดลง 39 เซนต์ หรือร้อยละ 0.4 อยู่ที่ 104.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 00.13 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ หลังปรับขึ้นเกือบร้อยละ 4 เมื่อวาน
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัส สหรัฐฯลด 35 เซนต์ หรือร้อยละ 0.3 อยู่ที่ 102.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังปรับขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อวาน
โดยในภาพรวม ราคาซื้อขายน้ำมันดิบตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทั้งสองตลาดลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว
เมื่อวันอังคาร (5 ก.ค.65) มีแรงเทขายน้ำมันดิบจากลงทุนค่อนข้างมาก โดยราคาน้ำมันดิบที่ตลาดเวสต์เท็กซัสลดร้อยละ 8 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ตลาดกรุงลอนดอนลดร้อยละ 9 ซึ่งการที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ร่วงมาแตะที่ 10.73 ดอลลาร์ นับว่าร่วงหนักสุดครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายน้ำมันดิบในปี 2531
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่นักลงทุนหวั่นวิตก เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และการที่ธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้นักลงทุนหวั่นเกรงว่าต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลให้หลายประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอดทางเศรษฐกิจและลดอุปสงค์น้ำมันดิบ
ข้อมูลจากองค์การข้อมูลพลังงาน(EIA) ของสหรัฐฯระบุว่า ปริมาณน้ำมันดิบที่บริษัทพลังงานส่งเข้าสู่ตลาดน้ำมันสหรัฐฯอยู่ที่ 20.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อุปสงค์ด้านน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาลดกว่าร้อยละ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
#น้ำมันดิบ
#ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ