สหประชาชาติ ระบุ สงครามยูเครน ส่งผลให้มีคนยากจนเพิ่มขึ้นอีก 71 ล้านคนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

          โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (the UN Development Programme : UNDP) เผยแพร่รายงานที่ระบุว่า ในช่วงเวลา 3 เดือนของสงครามในยูเครน มีประชาชนประมาณ 71 ล้านคนต้องตกอยู่ในภาวะยากจน เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วกว่าผลกระทบจากโควิด-19

          นายอาคิม สไตเนอร์ ผู้บริหารสูงสุดของ UNDP กล่าวระหว่างการแถลงข่าวออนไลน์จากนครเจนีวาว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในประเทศกำลังพัฒนา 159 ประเทศ พบว่าการที่สินค้าโภคภัณฑ์หลักมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบ “ร้ายแรงและฉับพลัน” ต่อครัวเรือนที่มีฐานะยากจน โดยในห้วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 หลายประเทศใช้มาตรการล็อกดาวน์ประมาณ 18 เดือน ทำให้มีผู้คนราว 125 ล้านคนตกอยู่ในภาวะยากจน เมื่อกองทัพรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ เป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้มีคนยากจนเพิ่มขึ้นอีก 71 ล้านคน

          นายจอร์จ เกรย์ โมลินา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ UNDP กล่าวว่า ทั้งสองสถานการณ์ทำให้หลายประเทศต้องเผชิญกับช่วงเวลา 36 เดือนของแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และชี้ว่า ผลกระทบจากสงครามในยูเครนนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ส่งผลต่ออุปทานพลังงานและอาหารโลกทั้งทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่า แม้เงินอุดหนุนพลังงานแบบครอบคลุมอาจช่วยได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวมาตรการนี้จะผลักดันให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน และไม่สามารถลดผลกระทบจากการที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหมายถึงการมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะรุนแรงหนักกว่าเดิมเมื่อเวลาผ่านไป

...

#สหประชาชาติ

#คนยากจน

#สงครามซ้ำโควิด

undp.org