นายกฯสหราชอาณาจักร ปฏิเสธการจัดทำประชามติเป็นเอกราชของสกอตแลนด์

          นางนิโคลา สเตอร์เจียน มุขมนตรีสกอตแลนด์ เผยแพร่หนังสือของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร ที่ปฏิเสธคำร้องของสกอตแลนด์ในการจัดทำประชามติที่มีผลผูกพันเป็นกฎหมายในการออกจากสหราชอาณาจักร ซึ่งนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการกลับไปที่คำถามซึ่งชาวสกอตแลนด์ตอบอย่างชัดเจนแล้วเมื่อปี 2557 ซึ่งสกอตแลนด์และสหราชอาณาจักรควรให้ความสำคัญกับการตอบสนองต่อภาวะเงินเฟ้อ การฟื้นตัวจากโควิด-19 และการตอบสนองต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน

          อย่างไรก็ตาม นางสเตอร์เจียน เห็นว่า หนังสือของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันคือ “หนึ่งในการทำหน้าที่เป็นครั้งสุดท้าย” ในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งเธอหมายถึงเรื่องอื้อฉาวหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านพักนายกรัฐมนตรีบนถนนดาวนิง ทำให้มีการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจอห์นสันลาออกจากตำแหน่ง และการที่มีรัฐมนตรีของเขาทยอยลาออกแล้วหลายคน

          นางสเตอร์เจียน ยืนยันว่า สกอตแลนด์มีโอกาสเลือกความเป็นเอกราช และเธอหวังว่าจะมีการลงประชามติเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ตุลาคม 2566 หรือ 9 ปีหลังการลงประชามติครั้งแรก ซึ่งในเวลานั้นผู้มีสิทธิเลือกตั้งของสกอตแลนด์ลงมติให้ประเทศของตนเป็นสมาชิกของสหราชอาณาจักรต่อไป ด้วยคะแนนร้อยละ 55 ต่อ 44 แต่ในการลงประชามติเบร็กซิตปี 2559 ชาวสก็อตเลือกที่จะอยู่ในสหภาพยุโรป ขณะที่ชาวอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ให้ออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งทำให้นางสเตอร์เจียนให้คำมั่นว่าจะนำสกอตแลนด์กลับคืนสู่ยุโรปในที่สุดหากได้รับเอกราช

          อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจความเห็นของชาวสกอตแลนด์จำนวนมาก ยังคงพบว่าชาวสก็อตส่วนใหญ่ไม่ต้องการออกจากสหราชอาณาจักร

          และในกรณีที่นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ปฏิเสธการจัดทำประชามติของสกอตแลนด์ ความหวังเดียวสำหรับความเป็นอิสระของสกอตแลนด์จะอยู่ที่การลงมติของรัฐสภาในเวสต์มินสเตอร์ ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ

...

#ประชามติสกอตแลนด์