กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกประกาศขยายมาตรการคว่ำบาตรเครือข่ายบริษัทของจีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ซึ่งมีพฤติการณ์เปิดบริษัทบังหน้าในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย เพื่อให้ความช่วยเหลืออิหร่านขายและจัดส่งปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังประเทศในเอเชียตะวันออก
เมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) กระทรวงการคลังสหรัฐ ออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัท 2 แห่งที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง, 3 แห่งในอิหร่าน และ 4 แห่งในยูเออี ร่วมด้วยบุคคลอีก 2 คนซึ่งเป็นชาวจีนกับชาวอินเดียที่มีส่วนช่วยอิหร่านในการส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เพื่อกดดันให้อิหร่านรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 อีกครั้ง แต่มีแนวโน้มว่าจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เนื่องจากในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อิหร่านยังไม่ยอมรับการรื้อฟื้นข้อตกลงซึ่งอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยกเลิกไปในปี 2561 แล้วบังคับใช้มาตรการลงโทษอิหร่านแต่เพียงฝ่ายเดียว
นายไบรอัน เนลสัน ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายข่าวกรองด้านการก่อการร้ายและการเงิน กล่าวว่า สหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงกับอิหร่านในการฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ และจะใช้หน่วยงานทั้งหมดในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรการขายปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของอิหร่าน
เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเปิดเผยด้วยว่าได้กำหนดเป้าหมายบริษัทเวียดนาม (Truong Phat Loc Shipping Trading JSC) และบริษัทจากสิงคโปร์ (Everwin Ship Management Pte Ltd) ซึ่งมีส่วนร่วมในการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของอิหร่าน และยังมีหน่วยงานในอิหร่าน 3 แห่งที่ตกเป็นเป้าหมายในการดำเนินการที่จะนำไปสู่การออกมาตรการกดดันต่อไป.
...
#สหรัฐอเมริกา
#คว่ำบาตรอิหร่าน