เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือนที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ที่อาจกดดันความต้องการใช้น้ำมันให้ลดน้อยลง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียด (West Texas Intermediate : WTI) ลดลงมากถึงร้อยละ 10 แตะระดับต่ำสุดที่ 97.43 ดอลลาร์/บาร์เรล และปิดตลาดที่ 99.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงร้อยละ 8 เป็นครั้งแรกที่เวสต์เท็กซัสอยู่ในระดับราคาน้อยกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม
น้ำมันดิบเบรนต์ลดลงมากกว่าร้อยละ 10 แตะระดับต่ำสุดที่ 101.10 ดอลลาร์/บาร์เรล แล้วปรับขึ้นมาอยู่ที่ 102.77 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อปิดตลาด โดยเบรนต์ยืนอยู่เหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลมาตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน
นายทอม โคลซา หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์พลังงานของ OPIS กล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมัน ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี กระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่อาจส่งผลต่อเนื่องให้ภาคธุรกิจปรับลดพนักงานและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย
ราคาน้ำมันและก๊าซปรับเพิ่มขึ้นเมื่อต้นปีนี้ หลังจากที่รัสเซียการรุกรานยูเครน ทำให้สหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปคว่ำบาตรการส่งออกพลังงานของรัสเซีย แต่อุปทานน้ำมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัจจัยที่นักลงทุนนำมาพิจารณาในการประมูลราคาน้ำมันล่วงหน้า แต่ปัจจัยที่กดดันตลาดในขณะนี้คือภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะเป็นการลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม เมื่อคนถูกเลิกจ้าง จะมีการเดินทางและความต้องการใช้พลังงานลดลง
นายโรเบิร์ต โยเจอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพลังงานล่วงหน้าของมิซูโฮ ในนิวยอร์ก กล่าวว่า ตลาดกำลังตึงตัว และมีความกังวลว่าจะเกิดภาวะถดถอยในทุกสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินการเชิงรุกเพื่อจำกัดอัตราเงินเฟ้อ
นายแอนดี ลิโพว์ ประธานบริษัท ลิโพว์ ออยล์ แอสโซซิเอทส์ (Lipow Oil Associates) ในฮูสตันกล่าวว่า หากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความต้องการพลังงานจะลดลงอย่างมาก นำไปสู่ความผันผวนที่รุนแรงมากขึ้นในด้านลบ
ในขณะเดียวกัน การที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 1.5 ยังส่งผลต่อราคาน้ำมันในสกุลเงินดอลลาร์ ที่จะมีราคาจะแพงกว่าผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่น
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ทศวรรษ เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจทั่วทั้งยูโรโซนชะลอตัวลงอีกเมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ตัวชี้วัดเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าบ่งชี้ว่าการเติบโตจะลดลงในไตรมาสนี้ เนื่องจากวิกฤตค่าครองชีพทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่าย
ที่เกาหลีใต้ อัตราเงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดเกือบ 24 ปีในเดือนมิถุนายน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
และกลุ่มคนงานน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์ ประท้วงหยุดงาน โดยนอร์เวย์เป็นผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่อันดับสองของยุโรปรองจากรัสเซีย ทำให้ต้องลดการส่งออกก๊าซธรรมชาติรายวันลง 89,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมัน (boepd) หรือร้อยละ 56 ของการส่งออกก๊าซรายวัน และลดการส่งออกน้ำมันลงอีก 130,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะเดียวกันซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบในเดือนสิงหาคมสำหรับผู้ซื้อชาวเอเชีย ซาอุขึ้นราคาน้ำมันตลาดเอเชีย จาก 2.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น 9.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ในตลาดดูไบ/โอมาน (Dubai/Oman benchmark)
....
#เศรษฐกิจสหรัฐฯ