*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีแห่งเยเมนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีอับดู ราบู มันซูร์ แห่งเยเมนถูกพาตัวไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีหลังมีเครื่องบินรบลำหนึ่งได้โจมตีบ้านพักประธานาธิบดีในเมืองเอเดนซึ่งเป็นที่พักที่เขาใช้หลบหนีความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงซานาหลังจากนั้นเครื่องบินลำดังกล่าวยังบินโฉบผ่านเป้าหมายเป็นครั้งที่สองอีกด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจึงได้ใช้ปืนต่อสู้อากาศยานยิงเพื่อขับไล่เครื่องบินลำดังกล่าวแต่การโจมตีครั้งแรกของเครื่องบินลำดังกล่าวนั้นพลาดเป้าหมายบ้านพักประธานาธิบดีไปถูกเนินเขาที่อยู่ใกล้กันแทน ประธานาธิบดีฮะดิเดินทางมาหลบภัยอยู่ที่เมืองเอเดนตั้งแต่เดือนที่แล้วเพราะไม่ต้องการให้ถูกกักบริเวณแต่ภายในที่พักในกรุงซานาหลังกลุ่มฮูธิ เข้ายึดครองเมืองหลวงของเยเมน ส่วนในเมืองเอเดนในวันเดียวกันนี้ก็ยังเกิดความวุ่นวายในเมืองเอเดนเมื่อเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือดทำให้ต้องปิดท่าอากาศยานนานาชาติโดยแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิต 6ศพและบาดเจ็บ20คนจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดี
+++สำหรับเหตุปะทะในเมืองเอเดนเริ่มขึ้นหลังนายอับดุล ฮาเฟซ อัล ซักกัฟ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของกลุ่มฮูธิและผู้ภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ของเยเมน สั่งการให้หน่วยรบหลายร้อยคนจัดตั้งด่านตรวจตามท้องถนนทุกแห่งที่มุ่งไปยังสนามบิน ก่อนหน้านี้นายฮาดีได้ออกคำสั่งปลดนายอัลซักกัฟ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่มีการดำเนินการตามคำสั่ง สำหรับกลุ่มกบฏฮูธิ เป็นกลุ่มกบฏของชนกลุ่มน้อย ที่สามารถยึดครองพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ แต่ไม่มีอิทธิพลในพื้นที่อื่นๆมากนัก ได้บุกเข้าไปยังกรุงซานาเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ต่อรองให้มีการแบ่งสรรอำนาจทางการเมืองให้มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ที่ผ่านมาพวกเขายังคงยึดครองทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่เดือนมกราคม
+++กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) ออกมาอ้างตัวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีและจับตัวประกันที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ บาร์โด ในกรุงตูนิสในวันพุธ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 23 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 40 คน ไอซิสกล่าวอ้างความรับผิดชอบผ่านคลิปเสียง ซึ่งถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ โดยไอซิสระบุว่า มือปืนที่ก่อเหตุทั้ง 2 คนคือนาย อาบู ซาคาริยา อัล-ตูนิซี และนาย อาบู อานัส อัล-ตูนิซี ใช้อาวุธปืนอัตโนมัติและระเบิดมือสังหารและทำร้ายพวกนักรบครูเสดและผู้ละทิ้งศาสนา ในพิพิธภัณฑ์บาร์โด ในกรุงตูนิส ไอซิสยังเตือนด้วยว่า เหตุนองเลือดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ซีเอ็นเอ็นระบุว่ายังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของคลิปเสียงนี้ได้ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯระบุว่า ไม่มีเหตุผลให้สงสัยเรื่องความถูกต้องของคลิปเสียงนี้ และกำลังตรวจสอบช่องทางที่คลิปเสียงนี้ถูกเผยแพร่ออกมา และเชื่อว่าเหตุโจมตีในตูนิเซียเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธที่สวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอซิส ไม่ใช่กลุ่มหลักซึ่งอยู่ในซีเรีย
+++ทำเนียบประธานาธิบดีตูนีเซียระบุว่า ตำรวจได้จับกุมชาย 9 คนที่ต้องสงสัยสมคบกับ 2 มือปืนที่ก่อเหตุโจมตีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาร์โดในกรุงตูนิส มีคนเสียชีวิต 23 ศพรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ศพเมื่อวานนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตรวมถึงชาวญี่ปุ่น 5 คน อิตาลี 4 คน ชาวตูนีเซีย 2 คน รวมถึงตำรวจ 1 คน โคลอมเบีย 2 คน สเปน 2 คน ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส โปแลนด์ ชาติละหนึ่งคนและอีกรายหนึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสัญชาติ ขณะเดียวกันชาวตูนีเซียหลายคนได้ออกมาชุมนุมกันตามท้องถนน เพื่อประณามการก่อเหตุดังกล่าว พวกเขาได้โบกธงชาติและจุดเทียนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่บริเวณด้านนอกพิพิธภัณฑ์
+++รายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่า นักรบพลีชีพจากกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)อาจจะเข้าข่ายฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงครามต่อชนกลุ่มน้อยชาวยาซิดีในอิรัก ระบุว่ากลุ่มไอเอสตั้งใจจะกำจัดชนกลุ่มน้อยชาวยาซิดีให้สิ้นซากไปทั้งหมด ก่อนหน้านี้ ชาวยาซิดีหลายหมื่นคนหลบหนีออกจากหมู่บ้านทางภาคเหนือของอิรัก หลังกลุ่มไอเอสบุกเข้าไปยึดครองเมื่อภาคฤดูร้อนปีก่อน หลายคนถูกฆ่าตาย ถูกจับกุมและถูกบังคับเป็นทาส คณะผู้สอบสวนยังได้รายงานกรณีการก่ออาชญากรรมต่อชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ ระบุว่านักโทษชาย 600 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมชีอะห์ ถูกผลักลงเหวเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อนและถูกยิงซ้ำ บางคนรอดตายเนื่องจากถตกลงไปทับร่างผู้ตาย ที่ผ่านมากลุ่มไอเอสถือว่าชาวชีอะห์เป็นพวกรีต รายงานเสนอแนะให้อิรักสมัครเป็นสมาชิกไอซีซี และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นให้ส่งคดีนี้ให้ศาลไอซีซีพิจารณาต่อไป
++++นายกรัฐมนตรี แองเกล่าแมร์เคิล ของเยอรมนี กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ระหว่างผู้นำกรีซ และผู้นำยูโรโซน จะยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ของกรีซแต่อย่างใดก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เสนอให้จัดการประชุมระหว่างเขากับนางแองเจลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี, นายฟรองซัวร์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ที่กรุงบรัสเซลส์ ก่อนการประชุมผู้นำ EU โดยหวังให้ยุโรปอนุมัติเงินกู้ระยะสั้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กรีซ ขณะเดียวกัน คาดว่าผู้นำยูโรโซนเตรียมเตือนกรีซในวันนี้ว่า เวลาและความอดทนใกล้จะหมดลงแล้วสำหรับกรีซในการดำเนินการปฏิรูปตามที่ได้ตกลงไว้กับชาติเจ้าหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่กรีซต้องพ้นจากยูโรโซน ด้านนางแมร์เคิลกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาวันนี้ว่า ทางเลือกเดียวของกรีซในการฝ่าฟันอุปสรรคเบื้องหน้าก็คือ การยึดมั่นในข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้
+++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ออกมาเรียกร้องในวันนี้ให้บรรดาเศรษฐีและผู้นำในภาคธุรกิจของรัสเซียนำเงินทุนกลับประเทศ ขณะขู่ว่าชาติตะวันตกอาจมีการประกาศอายัดสินทรัพย์ของชาวรัสเซียในต่างประเทศ นายปูตินอ้างว่า มีข้อมูลจากหลายประเทศที่กำลังบ่งชี้ถึงความพยายามที่จะจำกัดการใช้เงินทุนของรัสเซียในต่างประเทศ ขณะที่สหรัฐและชาติตะวันตกอาจทำการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย หลังจากที่เผชิญกับกระแสเงินทุนไหลออกถึง 1.51 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว นายปูตินก็ได้เสนออภัยโทษในเดือนธ.ค.ให้แก่ผู้ที่นำเงินทุนโอนกลับมายังรัสเซีย โดยจะไม่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องภาษี หรือเรื่องอื่นๆ
ผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มที่จะยังคงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไปในการประชุมสุดยอดในวันนี้ จนกว่าจะมีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน หลังจากผู้นำเยอรมนีออกมาคัดค้านการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในช่วงนี้
+++ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลง 117.16 จุด อยู่ที่ 17,959.63จุด การซื้อขายในวันพฤหัสบดี(19มี.ค.) ถือเป็นความผันผวนปกติของตลาด หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพุธ(18มี.ค.) จากถ้อยแถลงที่ผ่อนคลายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เฟด ในการซื้อขาย เอ็กซอนโมบิลและเชฟรอน 2 บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ปิดลบหนักที่สุดของดาวโจนส์ โดยร่วงลงร้อยละ 1.9 และ 1.8 ตามลำดับ อันเป็นผลจากความเคลื่อนไหวในด้านลบของราคาน้ำมันดิบส่วนราคาน้ำมันโลก ตลาดนิวยอร์ค ปรับตัวลดลง 13 เซนต์ อยู่ที่ 43.83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือตลาดลอนดอน ลดลง1.48 เหรียญ ที่ 54.43 เหรียญ/บาร์เรล ด้านราคาทองคำเพิ่มขึ้น 1.30 เหรียญ/ออนซ์ ที่ 1,170.30 เหรียญ/ออนซ์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของเฟดที่บอกว่าจะระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ย
+++นายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะเยือนกรุงมอสโกว์ของรัสเซียในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปีของการมีชัยชนะเหนือกองทัพนาซีเยอรมนีของรัสเซียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หากเขาไปร่วมงานครั้งนี้จะเป็นเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลาย 2554 รัสเซียได้เชิญผู้นำโลก 68 คน รวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เพื่อร่วมงานเฉลิมฉลองวันชัยชนะดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว ทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือ มิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์มายาวนานเริ่มกระชับสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้น หลังจากนายปูตินถูกประณามจากนานาชาติสืบเนื่องจากเหตุสงครามในยูเครน ทั้งสองประเทศได้ประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งมิตรภาพ
++++ประชาชนชาวสิงคโปร์จำนวนมาก รวมตัวกันที่หน้าโรงพยาบาลสิงค์โปร์ เพื่ออธิษฐานให้ ลี กวน ยู อดีตผู้นำประเทศวัย 91 ปี ที่กำลังป่วยหนัก และรับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล โดย นาย ลีเซียน ลุง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตผู้นำคนดังกล่าว ระบุว่า ลี กวน ยู ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาล และมีอาการทรุดลง หลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ จากอาการปอดบวมอย่ารุนแรง โดยอยุ่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ลี กวน ยู เป้นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศ ในปี 1959 หลังสิงคโปร์ได้รับรับอิสรภาพ ก่อนจะลงจากตำแหน่งในปี1990 นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำพาสิงคโปร์ออกจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และแยกตัวออกจากมาเลเซีย เพื่อก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองสิงคโปร์เมื่อปี 1959 ด้วย
+++ เรื่องโกงข้อสอบเดี๋ยวนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา หลายๆคนก็ทำกัน แต่คำว่าธรรมดาในที่นี้ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หรือเหมาะสมแต่อย่างใด ในรัฐพิหารของอินเดียก็เช่นกัน สำนักข่าวบีบีซีระบุว่าเด็กนักเรียนโกงข้อสอบกันมาก จนเป็นเรื่องปกติสามัญมาก แอบหอบโพยบ้าง หนังสือบ้าง สมุดบ้างเข้าไปในห้องสอบด้วยทั้งๆที่ก็มีคนคอยจับตามองอย่างใกล้ชิดแล้วก็ตามเท่านั้นยังไม่พอยังมีการพยายามโกงมากกว่านี้อีกก็คือมีการจัดสอบขึ้นที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐพิหารมีนักเรียนกว่าล้านคนเข้าสอบ แล้วพ่อแม่ ญาติพี่น้องทั้งหลายอุตส่าห์ปีนกำแพงตึกห้องสอบ ส่งโพยให้ลูกหลานทางหน้าต่าง ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเป็นอันตรายต่อชีวิต มีภาพและคลิปหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจน
++++แต่ไม่มีใครหนีความผิดพ้นเพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่รู้ว่าบรรดาผู้ปกครองพยายามแอบส่งโพยให้ลูกหลานทางหน้าต่างที่โรงเรียนมัธยมในรัฐพิหารแห่งนั้นพวกเขาก็ยึดกระดาษโพยมาจำนวนมากใส่กระสอบได้9 กระสอบทีเดียว ส่วนด้านผู้ปกครองโดนกักตัว 20 คนโทษฐานสมรู้ร่วมคิดในการทุจริต แต่สุดท้ายแล้วก็แค่โดนตักเตือน และปล่อยตัวออกมา ในขณะที่นักเรียนไม่ต่ำกว่า 400 คนถูกไล่ออก แต่ความจริงแล้ว ผู้ที่ถูกจับได้ว่ามีเจตนาทุจริตการสอบ ต้องถูกสั่งไม่ให้เข้าสอบในทุกกรณีเป็นเวลา 3 ปี นอกจากนี้อาจจะต้องโทษจำคุกหรือชำระค่าปรับด้วย แต่บทลงโทษนี้ก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะถูกใช้จริงจังในรัฐพิหาร พร้อมกันนั้น รัฐมนตรีกระทรวงการศึกษายังกล่าวอีกด้วยว่า ในการที่จะขจัดปัญหาการทุจริตในการทำข้อสอบ จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ หากแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากตัวนักเรียนและผู้ปกครองด้วย