ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ที่ประชุมฯ หารือเพื่อกำหนดแผนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์พลังงาน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลก การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ และการเงินการธนาคาร อีกทั้งการบรรเทาค่าครองชีพ ปัญหาด้านพลังงาน อาหาร ผลผลิตการเกษตรและปัจจัยการผลิต
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ประกอบด้วย
1.คณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ
2.คณะกรรมการเฉพาะกิจ บริหารติดตาม วิเคราะห์ผลกระทบในอนาคต
ในที่ประชุมได้หารือ กับ หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ และวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทั้งปัญหาสงคราม สงครามการค้า ว่าส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยยาวนานแค่ไหน รวมทั้งจะส่งผลในช่วง 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปีข้างหน้าอย่างไรบ้าง เบื้องต้นที่ประชุมกำหนดว่าในช่วง 3 เดือนจากนี้ (ก.ค.-ก.ย.) รัฐบาลจะพิจารณามาตรการที่เคยดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนว่ามาตรการใดสามารถดำเนินการได้ต่อไปบ้าง และพิจารณาแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ เพราะหากมีการกู้เงินก็ต้องมีการคำนึงถึงหนี้สาธารณะที่จะเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ พร้อมกับขอร้องให้ทุกคนช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยใช้เท่าที่จำเป็น รัฐบาลจะดูแลไม่ให้มีการขาดแคลนพลังงาน แม้ปัจจุบันต้นทุนราคาพลังงานจะสูงขึ้นมาก และใช้เงินดูแลไปแล้วกว่าแสนล้านบาท แต่หากมีงบประมาณเพียงพอก็ยินดีจะช่วยเต็มที่ ส่วนเรื่องค่าการกลั่นได้มอบหมายให้ทางกฤษฎีกาชี้แจงว่าเรื่องใดสามารถดำเนินการได้บ้าง เพราะมีผลต่อด้านกฎหมายด้วย
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ต้องมีการสำรองพลังงานให้เพียงพอ จะต้องไม่มีปัญหาเรื่องไฟฟ้าดับ รวมถึงความมั่นคงด้านอาหาร ซึ่งมั่นใจว่าไทยไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหาร รวมถึงต้องมีการจัดหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม โดยเรื่องนี้ต้องมีการเจรจาหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น แหล่งพลังงานในอ่าวไทย
#พลังงาน
#รัฐบาลไทย