นายคาร์สเตน ฟริตช์ นักวิเคราะห์จากธนาคารคอมเมอร์ซแบงค์ของเยอรมนี เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ เช่น รัสเซีย ซึ่งเรียกว่า กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 23 ประเทศ มีมติในการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในวันนี้ว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 648,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนสิงหาคมนี้ จากเดิม 432,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การคงกำลังการผลิตเพียงเล็กน้อยเช่นนั้นจะไม่ทำให้ราคาน้ำมัน รวมทั้งน้ำมันเบนซินตามปั๊มน้ำมันต่างๆในสหรัฐฯปรับลดลงเท่าที่ควร อีกทั้งจะไม่ช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อจากน้ำมันแพง ซึ่งกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก
แต่การคงกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก ซึ่งมีซาอุดิอาระเบียเป็นแกนนำ ส่งสัญญาณเชิงบวกถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ซึ่งเตรียมจะไปเยือนซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีในเดือนหน้า หลายฝ่ายมองว่าประเด็นการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกอาจจะเป็นหัวข้อสำคัญที่นายไบเดนจะหารือกับรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย
ที่ผ่านมา นายไบเดน ซึ่งเผชิญกับกระแสกดดันทางการเมืองในประเทศ ขอให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้น้ำมันเบนซินตามปั๊มน้ำมันต่างๆในสหรัฐฯมีราคาถูกลง จะช่วยลดค่าครองชีพสำหรับบรรดาผู้ขับขี่ชาวอเมริกัน พร้อมทั้งเสนอให้สภาคองเกรสสหรัฐฯลงมติให้รัฐหยุดเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงชั่วคราวและปล่อยน้ำมันดิบจากคลังน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
ในปัจจุบัน น้ำมันราคาแพงทั่วโลก โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ราคาแตะที่ 5 ดอลลาร์ต่อแกลลอนเป็นครั้งแรกในเดือนนี้ ก่อนที่จะปรับตัวลดลง
ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพลัสลดลงที่ 2.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่าตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบที่ตกลงไว้ในเดือนพฤษภาคม โดยเฉพาะไนจีเรียและแองโกลา(ในแอฟริกากลาง)ผลิตน้ำมันดิบได้ต่ำกว่าโควตาที่ตกลงไว้ ขณะที่รัสเซียลดกำลังการผลิตลงมาก หลังถูกสหรัฐฯและกลุ่มสหภาพยุโรปคว่ำบาตรหลังบุกยูเครน
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดว่า แกนนำกลุ่มโอเปก เช่น ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจาก ผลิตเต็มที่แล้วจนไม่อาจผลิตน้ำมันดิบมาทดแทนน้ำมันดิบส่วนขาดหายจากรัสเซีย ไนจีเรียหรือ แองโกลา
#โอเปกพลัส
#เพิ่มกำลังการผลิต
#ราคาน้ำมันแพง