สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานอ้างผลการสอบสวนเรื่องต้นตอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนือว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเกาหลีเหนืออาจจะเริ่มต้นจากการที่ประชาชนไปสัมผัสกับวัตถุแปลกปลอมบางอย่าง ซึ่งร่วงหล่นอยู่ใกล้ชายแดนสองเกาหลี พร้อมแนะนำประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังเมื่อพบวัตถุต่างๆปลิวมาทางสายลม อากาศหรือลอยมาพร้อมกับบอลลูนซึ่งถูกปล่อยข้ามชายแดนจากฝั่งเกาหลีใต้ ให้แจ้งหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการควบคุมโรคของเกาหลีเหนือ เพื่อส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบ และทำลายวัตถุดังกล่าว เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
ผลสอบสวนต้นตอของโรคโควิด-19 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีเหนือ พบว่า มีชาวเกาหลีเหนือ 2 คน คือ ทหารอายุ 18 ปีคนหนึ่งและเด็กอายุ 5 ขวบคนหนึ่งเริ่มป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในช่วงแรกๆของการแพร่ระบาดช่วงต้นเดือนเมษายน หลังการสัมผัสกับวัตถุบางอย่างแต่ไม่มีการระบุให้ชัดว่า เป็นอะไร ที่หล่นอยู่บนเทือกเขาแห่งหนึ่งของเมืองอิโฟ-รี(Ipho-ri) ใกล้ชายแดนเกาหลีใต้
ต่อมา โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในเกาหลีเหนืออย่างรวดเร็ว ประชาชน 4.7 ล้านคนมีอาการป่วยจากไข้หวัด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า ป่วยจากโรคโควิด-19 แต่เกาหลีเหนือไม่มีการจัดโครงการตรวจโรคโควิด-19 และโครงการฉีดวัคซีน ทำให้ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีผู้ป่วยกี่คน และประชาชนรับวัคซีนแล้วกี่คน เสียชีวิต 73 ราย
ด้านกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ปฏิเสธว่า เป็นไปไม่ได้ที่โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดข้ามชายแดนไปยังเกาหลีเหนือในลักษณะเช่นนั้น สำหรับพื้นที่ชายแดนสองเกาหลีเป็นพื้นที่ที่มีการวางหน่วยทหารดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แต่ในระยะหลังๆมานี้ ชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้และนักเคลื่อนไหวของเกาหลีใต้ได้จัดกิจกรรมปล่อยบอลลูนบรรจุใบปลิวโจมตีรัฐบาลเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งสิ่งของบรรเทาทุกข์ข้ามชายแดนไปยังเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว
#เกาหลีเหนือ
#สอบต้นตอโควิด