*เลขาธิการสปสช. มั่นใจชี้แจงการใช้เงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ ไม่มีทุจริต*

หลังจากที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการใช้เงินในกองทุนต่างๆ ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.  ว่ามีหลักเกณฑ์การดำเนินงานตามวัตถุประสงค์หรือไม่ วันนี้ที่ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.   พร้อมด้วย นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช.  เปิดเผยว่า  ในประด็นที่สงสัยว่าการซื้อยาของ สปสช. ปีละ 6,000กว่าล้านบาท จากองค์การเภสัชกรรม (อภ.)  มีส่วนต่างและส่วนได้ส่วนเสีย  สปสช. ยืนยันว่า การซื้อยาจากองค์การเภสัชฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ  ซึ่งการซื้อแต่ละครั้งจะซื้อในจำนวนมาก จึงได้ราคาที่ถูกกว่า หากจะให้แต่ละโรงพยาบาลไปซื้อเอง ส่วนเงินส่วนลด นั้น สปสช. ได้นำไปใช้สนับสนุนกองทุนกิจการของรัฐ เช่น กองทุนสนับสนุนการบริการ ,การพัฒนาสุขภาพถ้วนหน้า ของประชาชน

ส่วนข้อส่งสัยเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการ และเลขาธิการของ สปสช. นั้น เป็นไปตามระเบียบการจ่ายค่าตอบแทนของสำนักนายกรัฐมนตรี คือ คณะกรรมการจะไม่ได้รับเงินเดือน แต่จะได้รับเบี้ยประชุมเดือนละ 12,000บาทต่อคน ส่วนเงินค่าตอบแทนของ เลขาธิการ สปสช.จะไม่เกินอัตราเงินเดือนสูงสุดที่กำหนด คือ ไม่เกิน 2แสนบาท

สำหรับ การนำเงินของกองทุนนั้นไปอุดหนุนโรงพยาบาลเอกชน  นั้นเป็นการอุดหนุนค่ารักษาตามมาตราฐานเดียวกับผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลของรัฐ เช่น หากผู้ป่วยรักษาที่โรงพยาบาลรัฐราคา 500บาท สปสช.ก็จะอุดหนุนราคาเท่ากัน โดยไม่ได้จ่ายในส่วนของค่ารักษาทั้งหมด ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้ประชาชนมีสิทธิที่จะสามารถเลือกการบริการได้อย่างทั่วถึง และทำให้เกิดการแข่งขันในด้านการบริการระหว่างโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ซึ่งการอุดหนุนเงินโรงพยาบาลเอกชนนั้น จะเป็นโรงพยาบาลที่เป็นสมาชิกของ สปสช.อีกด้วย

ในกรณีการตกแต่งบัญชี ที่ถูกตั้งข้อสังเกตุ สปสช. ยืนยันว่าไม่มีการตกแต่งบัญชีแต่อย่างใด เพราะการใช้เงิน จะแบ่งเงินงบที่ได้รับมาเป็น 2ส่วนคือ ร้อยละ 96 ก็จะกระจายให้โรงพยาบาลต่างๆเป็นค่าใช้จ่าย   โดยจะกระจายให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30กันยายนของทุกปี ซึ่งหากปีต่อไปเงินที่โรงพยาบาลใดเหลือนั้น ก็จะให้เก็บงบไว้ แต่ปีต่อไปถ้าหากจะให้อีก ก็จะเอางบส่วนที่เหลือมาคำนวณด้วย    ทั้งนี้งบแต่ละโรงพยาบาล ทุกปีก็จะมีมูลค่าที่ใกล้เคียงกันจึงไม่กังวลว่าจะมีการของบที่เกินความจริง  ส่วนเงินที่เหลืออีกร้อยละ 4 สปสช. ก็จะเก็บไว้เป็นค่าใช้อื่นๆ   ขณะที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. คอยตรวจสอบในทุกปี โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของ สตง. มาประจำอยู่ที่ สปสช. รวมถึงทุกช่วงปลายปี สปสช. ก็จะได้รับผลการตรวจสอบจาก สตง. เพื่อรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ จึงมั่นใจว่าจะไม่มีการทุกจริตเกิดขึ้นได้

วิรวินท์