สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา หรืออีพีเอ (The US Environmental Protection Agency : EPA) สูญเสียอำนาจบางส่วนในการรณรงค์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อคณะตุลาการศาลฎีกา มีมติ 6-3 เสียงให้จำกัดอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และอีพีเอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อนโยบายสภาพภูมิอากาศของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
เขากล่าวว่า คำตัดสินนี้เป็นการ "ทำลายล้าง" แต่จะไม่บ่อนทำลายความพยายามในการแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
คำตัดสินในครั้งนี้ ยังเป็นไปตามคำฟ้องร้องของทางการ 19 รัฐซึ่งส่วนใหญ่คือฐานเสียงพรรครีพับลิกันและบริษัทถ่านหินรายใหญ่ ซึ่งแย้งว่าพีอีเอไม่มีอำนาจในการจำกัดการปล่อยมลพิษในรัฐต่าง ๆ และผู้ฟ้องมีความกังวลว่าพวกเขาจะถูกบังคับให้ยกเลิกการใช้ถ่านหินเพื่อผลิตไฟฟ้า อัยการรัฐมิสซูรี หนึ่งในผู้ฟ้องร้องระบุว่า เป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อยุติกฎเกณฑ์ของประธานาธิบดีไบเดน และอีพีเอที่เป็นสาเหตุให้มีการเลิกจ้างคนทำงานจำนวนมาก
แต่กองทุนป้องกันสิ่งแวดล้อม หรืออีดีเอฟ (Environmental Defense Fund : EDF) มีความเห็นว่า คำตัดสินของศาลฎีกาคือการบ่อนทำลายอำนาจของอีพีเอ ในการปกป้องผู้คนจากมลภาวะ ในช่วงเวลาที่มีหลักฐานมากมายที่แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
และโฆษกขององค์การสหประชาชาติ มีความเห็นว่าเป็นความล้มเหลวในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ไม่มีประเทศใดที่สามารถขัดขวางความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
...
#สหรัฐอเมริกา
#การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ