หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งประทับรับฟ้องจากคดีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว นายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เปิดเผยว่า การที่ศาลฎีกาฯ ประทับรับฟ้องเป็นผลให้อำนาจการพิจารณาคดีทั้งหมดอยู่ในดุลยพินิจของศาลฎีกาฯ รวมถึงการเดินทางออกนอกประเทศของนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งจะต้องอยู่ในดุลยพินิจและต้องขอศาลทุกครั้ง หลังจากนี้จำเลยคือนางสาวยิ่งลักษณ์ก็มีสิทธิ์ส่งตัวแทนหรือเดินทางมาขอคัดเอกสารการฟ้องของโจทก์รวมถึงขอประกันตัวได้ตั้งแต่วันนี้ ส่วนสิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 จำเลยจะต้องมาฟังคำพิจารณาคดีของศาลด้วยตัวเอง หากไม่มาจะถูกออกหมายจับ แต่หากนางสาวยิ่งลักษณ์ ติดภารกิจก็ต้องเป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะมีความเห็นอย่างไร รวมทั้งจะเป็นวันที่ศาลพิจารณาด้วยว่าจะให้ประกันตัวจำเลยหรือไม่ ซึ่งนายสุรศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้นางสาวยิ่งลักษณ์ อยู่ในฐานะผู้ต้องหาซึ่งสามารถยื่นขอประกันตัวไว้ก่อนตั้งแต่วันนี้ ซึ่งหากไม่ให้ประกันตัวจำเลยก็จะต้องถูกฝากขังทันที ส่วนโจทก์เองก็มีสิทธิยื่นคัดค้านการประกันตัว หากพบว่าจำเลยจะไปเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือคุกคามต่อพยานหลักฐานได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดีการให้ประกันตัวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล และหลังจากวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 แล้ว ศาลฎีกาฯ จะกำหนดวันตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง ซึ่งหากจำเลยไม่มาศาลฎีกาฯก็มีสิทธิพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ โดยในวันตรวจพยานหลักฐานโจทก์และจำเลยต้องยื่นบัญชีเพื่อระบุพยานหลักฐานที่จะใช้ในการต่อสู้คดี นายสุรศักดิ์ มองว่าจะเป็นอีกวันสำคัญของการพิจารณาคดี เนื่องจากพยานหลักฐานจะมีน้ำหนักต่อการพิพากษาของศาล ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าฝ่ายจำเลยมีพยานกี่ปาก แต่ฝ่ายโจทก์จะมีพยานบุคคลทั้งสิ้น 13 ปาก ส่วนใหญ่เป็นประเด็นด้านกฎหมาย ซึ่งได้ประสานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. เบื้องต้นแล้วว่าป.ป.ช.จะนำพยานปากบางส่วนมาเป็นหนึ่งในพยาน 13 ปากด้วย ประกอบกับพยานเอกสารหลายพันหน้าที่โจทก์ได้ส่งให้ศาลพิจารณาไปแล้ว เชื่อมั่นว่าพยานทั้งบุคคลและเอกสารที่มีอยู่เพียงพอแล้วต่อการพิจารณาคดีของศาล คงไม่ต้องเพิ่มเติมอีก ดังเห็นได้จากการที่อัยการสูงสุดเสนอเรื่องต่อศาลและศาลประทับรับฟ้อง พร้อมระบุด้วยว่าการที่ศาลประทับรับฟ้อง ไม่ได้ถือเป็นความสำเร็จของอัยการ แต่เป็นการดำเนินคดีไปตามข้อกฎหมาย ส่วนหลังการประทับรับฟ้องในวันนี้อัยการจะประสานกับพนักงานศาลส่งสำเนาคำฟ้องจำเลยไปที่ภูมิลำเนาของจำเลยภายใน 7 วันตามคำสั่งศาล