มาร์กอส จูเนียร์ สาบานตนเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนใหม่ เร่งฟื้นฟูประเทศพร้อมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

          นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของฟิลิปปินส์ในวันนี้ (30 มิ.ย.) มีวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปี ในงานพิธีซึ่งมีขึ้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงมะนิลาตามที่เขาได้รับคะแนนสนับสนุนมากถึงร้อยละ 60 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤษภาคม และมีนางซารา ดูเตอร์เต เป็นรองประธานาธิบดี เธอเป็นลูกสาวของนายโรดริโก ดูเตอร์เต ที่พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์

          สำหรับประเด็นปัญหาสำคัญที่รอประธานาธิบดีคนใหม่เข้ามาแก้ไขคือ การฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจจากเงินเฟ้อและหนี้สิน รวมถึงการแก้ไขข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

          ชัยชนะในการเลือกตั้งของนายมาร์กอส จูเนียร์ ยังเป็นจุดสูงสุดของการต่อสู้ที่ยาวนานหลายทศวรรษของตระกูลมาร์กอส เมื่อนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส พ่อของนายมาร์กอส จูเนียร์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2508 ถึง 2529 ท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การทุจริต และความยากจน จนถึงในปี 2529 มีเหตุจลาจลครั้งใหญ่ ทำให้ครอบครัวมาร์กอสต้องออกเดินทางไปฮาวาย รวมถึงนายมาร์กอส จูเนียร์ ที่ในเวลานั้นเป็นผู้ว่าการจังหวัดฮีลากังอีโลโคส แต่หลังจากที่นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เสียชีวิต นายมาร์กอส จูเนียร์จึงเดินทางกลับมาฟิลิปปินส์ในปี 2534 เพื่อลงเลือกตั้ง และกลับมาเป็นผู้ว่าการจังหวัดฮีลากังอีโลโคสอีกครั้ง

          นายมาร์กอส จูเนียร์ เดินหน้ารณรงค์ทางการเมือง ว่าฟิลิปปินส์ภายใต้การปกครองของบิดาผู้ล่วงลับของเขาคือ "ยุคทอง" ซึ่งทำให้นักวิจารณ์ทางการเมืองจำนวนมากระบุว่า เป็นการ “รณรงค์ข่าวปลอม” แต่เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี 2553 แต่แพ้เลือกตั้งรองประธานาธิบดีในปี 2559

          ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดนี้ นายมาร์กอส จูเนียร์ ได้รับแรงหนุนที่สำคัญจากการที่มีนางซารา ดูเตอร์เต เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งเท่ากับเป็นการรวมฐานที่มั่นของตระกูลทางการเมือง 2 แห่งไว้ด้วยกัน ได้แก่ ตระกูลมาร์กอสในภาคเหนือของฟิลิปปินส์และตระกูลดูเตอร์เตทางตอนใต้

...

#มาร์กอสจูเนียร์

#ฟิลิปปินส์