กรณีที่กองทัพรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้มีเป้าหมายโจมตีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเครเมนชุกทางตอนกลางของประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน (ตามเวลาท้องถิ่น) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บอีก 58 คน ซึ่งประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวประณามประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และเห็นว่ารัสเซียมีเจตนาที่จะโจมตีห้างสรรพสินค้า จึงเรียกร้องให้ขับรัสเซียออกจากสหประชาชาติ
ด้านนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ชี้ว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นความโหดร้าย ป่าเถื่อนของผู้นำรัสเซีย ที่จะนำพาประเทศให้ตกต่ำลง
แต่กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรตั้งข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้ที่เป้าหมายโจมตีที่แท้จริงคือสถานที่ซึ่งอยู่ใกล้เคียงตามรายงานของคณะนักการทูตของรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ว่าเป้าหมายที่แท้จริงคือโรงเก็บเครื่องบินภายในโรงงาน แรงระเบิดทำให้เกิดไฟลุกลามไปยังห้างสรรพสินค้า
ในรายงานข่าวกรองของกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การโจมตีเป้าหมายใกล้เคียงแล้วมีไฟลุกลามมายังห้างสรรพสินค้า แต่คือการกำหนดพิกัดเป้าหมายผิดพลาด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยยกตัวอย่างการโจมตีสถานีรถไฟครามาทอสค์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน ซึ่งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ด้านประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสประณามการโจมตีห้างสรรพสินค้าว่าคือ อาชญากรรมสงครามครั้งใหม่ และให้คำมั่นว่าฝ่ายตะวันตกจะให้การสนับสนุนยูเครน เพราะรัสเซีย “ไม่สามารถและไม่ควรชนะ” สงคราม
...
#สหราชอาณาจักร
#รัสเซีย