วิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงของศรีลังกา ทำให้รัฐบาลต้องออกประกาศงดขายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ที่ไม่จำเป็น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เฉพาะรถโดยสาร รถไฟ และยานพาหนะสำหรับบริการทางการแพทย์และการขนส่งอาหารเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้
โรงเรียนในเขตเมืองต้องดการเรียนการสอน และประชาชน 22 ล้านคนต้องทำงานจากที่บ้าน
คำสั่งให้งดขายน้ำมันเชื้อเพลิงยังเป็นการย้ำถึงวิกฤตราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น และข้อจำกัดของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศรีลังกามีน้ำมันดีเซลเหลือเพียง 9,000 ตันและน้ำมันเบนซิน 6,000 ตัน จากนั้นในวันจันทร์ (27 มิ.ย.) นายบันดูลา กูเนวาร์เดนา โฆษกคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่าศรีลังกาไม่เคยประสบวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน และมีคำสั่งห้ามรถยนต์ส่วนตัวเติมน้ำมันเบนซินและดีเซลไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังรัสเซียและกาตาร์ผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่เพื่อจัดหาน้ำมันราคาถูก แต่รัฐมนตรีพลังงานยอมรับว่า ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้รับน้ำมันเมื่อใด
ส่วนบริษัทไฟฟ้าศรีลังกา (ซีอีบี) ประกาศขึ้นค่าไฟสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยมากถึงร้อยละ 835 โดยอ้างว่าบริษัทสูญเสียรายได้ไปถึง 65,000 ล้านรูปี (ประมาณ 6,605 ล้านบาท) ในไตรมาสแรก โดยในปัจจุบัน ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อเดือน จะจ่ายค่าไฟ 54.27 รูปี หรือราว 0.15 ดอลลาร์สหรัฐ และซีอีบีต้องการขึ้นค่าไฟเป็น 507.65 รูปี หรือราว 1.44 ดอลลาร์ ซึ่งทางคณะกรรมการสาธารณูปโภคของศรีลังกา เสนอขอเงินอุดหนุนโดยตรงจากกระทรวงการคลัง เพื่อให้ค่าไฟฟ้าที่ผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยต้องจ่ายลดลงครึ่งหนึ่ง
...
#ศรีลังกา
#วิกฤตเศรษฐกิจ