สำนักข่าว CNA รายงานระบุว่า นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะมีการเจรจากันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เป็นการรายงานในช่วงที่มีการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ กลุ่มจี-7 ที่เยอรมนี ที่การประชุมจะสิ้นสุดในวันนี้(28 มิ.ย.65) และเตรียมการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย.65
ในการประชุมกลุ่มจี-7 เห็นชอบเดินหน้าโครงการ ‘หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลกและการลงทุน’ (Partnership for Global Infrastructure and Investment : PGII) เพื่อคานอิทธิพลของจีนที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก จีนมีโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางหรือ เส้นทางสายไหมใหม่แห่งศตวรรษที่ 21
นายซัลลิแวน ย้ำว่า สหรัฐฯและชาติตะวันตก ไม่ต้องการเผชิญหน้าหรือทำสงครามเย็นครั้งใหม่กับจีนหรือต้องการแบ่งแยกโลกออกเป็นขั้วเพื่อให้ประเทศต่างๆเลือกข้าง เราต้องการวางหลักการซึ่งเป็นธรรมสำหรับทุกคนและทุกคนเห็นพ้องกันและเราจะดำเนินการร่วมกับพันธมิตรที่มีแนวคิดเหมือนกับเราซึ่งต้องการให้จีนยึดมั่นตามกฎระเบียบเหล่านี้
จี-7 ตั้งเป้าว่าจะระดมทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนให้ได้ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 21.18 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2570 โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลกและการลงทุน’ (Partnership for Global Infrastructure and Investment : PGII) ได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกและเห็นชอบเมื่อปีที่แล้วในการประชุมจี-7 ที่สหราชอาณาจักร เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในการรับมือกับการขยายอิทธิพลของจีน บรรเทาผลกระทบจากวิกฤติเงินเฟ้อโลกที่มีต่อราคาอาหารและเชื้อเพลิง
การระดมทุนที่จะเดินหน้าโครงการ PGII 1 ใน 3 จะมาจากสหรัฐฯ โดยเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ 'กลับมาสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่า' (Build Back Better World) เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า B3W เพื่อให้เป็นทางเลือก เมื่อเทียบกับแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน
โครงการ PGII จะระดมทุนจำนวน 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นทุนสำหรับเริ่มโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง โดยสหรัฐฯ ยังสัญญาจะระดมทุนทั้งหมด 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านเงินอุดหนุน, งบประมาณกลาง และการลงทุนของภาคเอกชน ขณะที่ สหภาพยุโรป ประกาศจะระดมทุนจำนวน 300,000 ล้านยูโร (ราว 3.17 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
แผนการนี้จะมุ่งเน้นไปที่การรับมือภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, พัฒนาสาธารณสุขโลก, บรรลุความเท่าเทียมทางเพศ และสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิตอล โดยโครงการที่เป็นไฮไลต์สำคัญรวมถึง โครงการพลังงานแสดงอาทิตย์ในแองโกลา, โรงงานผลิตวัคซีนในเซเนกัล และสายเคเบิลโทรคมนาคมใต้ทะเลเชื่อมระหว่างสิงคโปร์ไปยังฝรั่งเศสผ่านประเทศอียิปต์และจะงอยแอฟริกา (Horn of Africa) เป็นที่ตั้งของประเทศเอริเตรีย, จิบูตี, เอธิโอเปีย และโซมาเลีย จะงอยแอฟริกาครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,000,000 กม.
นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งมีความยินดีและสนับสนุนความคิดริเริ่มของทุกฝ่าย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา แต่จีนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการจัดตั้งโครงการพัฒนาด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝง เพื่อช่วงชิงอิทธิพลทางภูมิศาสตร์การเมือง และเพื่อใส่ร้ายป้ายสีให้กับแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
จีนเริ่มแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เมื่อปี 2556 ตามแนวคิดริเริ่มของประธานาธิบดีสี มุ่งเน้นการขยายโครงข่ายการลงทุนและการพัฒนาออกจากจีนสู่นานาประเทศในทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกาจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 100 ประเทศ ลงนามร่วมเป็นหุ้นส่วนกับรัฐบาลปักกิ่งในโครงการนี้
#ไบเดน
#สีจิ้นผิง
CR:CNA,Reuters