กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ คือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ หรือกลุ่มจี-7 ที่มีขนาดเศรษฐกิจกว่า 50% ของเศรษฐกิจโลก ประกาศยืนหยัดเคียงข้างยูเครน เสนอจำกัดเพดานการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ตอบโต้กรณีรุกรานยูเครน และสกัดแหล่งรายได้ในการทำสงครามของนายวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ทำให้ตลาดน้ำมันโลกเกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัว ปิดตลาดเมื่อคืนนี้(27 มิ.ย.65) ราคาน้ำมันโลกปรับขึ้น 2%
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนส.ค.65 เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนส.ค.65 เพิ่มขึ้น 1.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-ราคาน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.41 เซนต์ ปิดที่ 178.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายแอนดี ลิโพว์ ที่ปรึกษาทางพลังงานที่มีสำนักงานในฮิวสตัน มองว่า ยังไม่สามารถคาดเดามาตรการในการควบคุมราคาซื้อขายน้ำมันของรัสเซียได้ โดยเฉพาะเมื่อจีนและอินเดีย เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย
ขณะที่ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลได้ระบายน้ำมันดิบจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) จำนวน 6.9 ล้านบาร์เรล ออกสู่ตลาด ทำให้ปริมาณน้ำมันในสต็อกเหลือเพียง 497.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2529 กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า น้ำมันดิบที่มีการระบายออกสู่ตลาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แบ่งเป็นน้ำมันดิบ sweet crude จำนวนราว 1 ล้านบาร์เรล และ sour crude จำนวน 6 ล้านบาร์เรล
#น้ำมันขึ้น
#จี7
#คว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่
CR:Reuters