ยูเอ็น เตือนภัย ปลดล็อกกัญชา เตือนคนป่วยซึมเศร้า-ฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น

          สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC หน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติ(ยูเอ็น)เผยแพร่รายงานยาเสพติด (World Drug Report)ประจำปี 2565 แสดงความเป็นกังวลว่า จำนวนผู้ป่วยจากโรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย อาจจะสูงขึ้น หลังจากหลายประเทศเช่น สหรัฐฯ อุรุกวัยและแคนาดาปลดล็อกกัญชาให้เป็นพืชที่ถูกกฎหมาย ทำให้คนจำนวนมากเริ่มหันมาเสพกัญชาเป็นประจำทุกวัน

          นอกจากนี้ UNODC พบว่า การล็อกดาวน์ของหลายประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 ทำให้มีคนเสพกัญชาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนคนที่ใช้ยาเสพติด เช่น เฮโรอีน โคเคน ยาบ้า หรือ ยาอี ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 284 ล้านคน หรือ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.6 ของประชากรโลก ในปี 2563 UNODC พบว่า มีคนดูดกัญชารวม 209 ล้านคน

          ในหลายรัฐของสหรัฐฯ เช่น รัฐวอชิงตันและรัฐโคโลราโด ออกกฎหมายในปี 2555 รับรองการเสพกัญชาเป็นเรื่องไม่ผิดกฎหมาย แม้จะไม่ได้ใช้ในทางการแพทย์ ส่วนอุรุกวัยประกาศรับรองกฎหมายเรื่องการเสพกัญชาไม่ผิดกฎหมายในปี 2556 ต่อมา แคนาดารับรองเรื่องกัญชาไม่ผิดกฎหมายในปี 2561 ต่อมาอีกหลายประเทศออกกฎหมายแบบเดียวกัน

          นอกจากนี้ UNODC พบการผลิตโคเคนเพิ่มเป็นสถิติใหม่ในปี 2563 ทั้งการลักลอบขนส่งยาเสพติดทางทะเลมีแนวโน้มสูงขึ้นเช่นกัน ในปี 2564 ข้อมูลการเข้ายึดยาเสพติดของตำรวจพบว่า การค้ายาเสพติดเริ่มขยายจาก  2 ตลาดหลักๆคือ อเมริกาเหนือและยุโรป ไปสู่ทวีปแอฟริกาและเอเชีย โดยเฉพาะฝิ่น ยังคงเป็นยาเสพติดที่อันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิต มีคนเสียชีวิต107,622 รายในสหรัฐฯในปี 2563 จากการเสพฝิ่นเกินขนาด

#UNODC

#ยาเสพติด