*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.คาดว่าไตรมาสแรกของปีเศรษฐกิจจะขยายตัวได้อย่างน้อยร้อยละ 3 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 2.3  นายอาคม ชี้แจงว่า การปรับตัวที่ดีขึ้นของจีดีพี เป็นผลมาจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 การเบิกจ่ายทำได้ดีกว่าปีก่อนร้อยละ 6   ขณะเดียวกัน จากการที่คณะรัฐมนตรี( ครม.)อนุมัติงบบริหารจัดการน้ำและปรับปรุงถนนกว่า 7.8 หมื่นล้านบาท และงบประมาณปี 2559 ที่ส่วนใหญ่เป็นงบก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นชัดเจน นายกรัฐมนตรีจึงกำชับให้เร่งลงทุนตามแผนงานที่วางไว้อย่างเต็มที่ 

+++นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้หารือสถานการณ์เศรษฐกิจ แสดงความเป็นห่วงมาก จึงต้องหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยกำชับกระทรวงพาณิชย์ รักษาฐานการส่งออกในตลาดเดิม  และเน้นพัฒนาเศรษฐกิจ ตามแนวชายแดนเพื่อส่งออกสินค้าไปเพื่อนบ้านแทนตลาดโลก  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  สั่งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย เตรียมมาตรการดูแลเกษตรกรในช่วงฤดูกาลผลิตใหม่ ประมาณเดือน ก.ค. ส.ค.นี้ โดยเฉพาะการดูแลต้นทุนการผลิตให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทั้ง เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และรถไถ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานต้องไปสรุปวิธีดำเนินการก่อนเสนอให้ครม.เศรษฐกิจ พิจารณาในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นอาจใช้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาท แผนการดูแลเกษตรกรในช่วงการผลิตรอบใหม่ ต้องไปดูแลต้นทุนการผลิตต้องดูว่า จะทำอย่างไรให้เกิดความยั่งยืน ด้วยการหาเงินให้เข้าไปทุกตำบลให้สามารถสร้างวิสาหกิจชุมชน สร้างศูนย์เครื่องจักรชุมชน หรือรวมกันซื้อรถไถชุมชน โรงสีขนาดเล็ก โรงเผาขยะในชุมชนขนาดเล็ก หรือพลังงานชีวมวล ทำโซลาร์เซลล์ชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุน และสร้างรายได้เข้าชุมชน โดยใช้เม็ดเงินหลายพันล้านบาทถึงหมื่นล้านบาท ใน 7,000 ตำบล ตำบลละ 1 ล้านบาท และนายกฯยังเน้นว่า เครื่องมือต่าง ๆ ก็ให้อยู่บนฐานความต้องการของชุมชนไม่ใช่ให้ข้าราชการลงไปกำหนด

+++ ขณะเดียวกัน ในงบประมาณโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก ที่ผ่านการเห็นชอบจากครม. วงเงิน 3,565 ล้านบาท ซึ่งช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ 58 จังหวัด ล่าสุดก็มีความคืบหน้าแล้ว โดยนายกฯ ได้สั่งให้นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ รายงานความคืบหน้าของการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นประจำทุกสัปดาห์ด้วย

+++คณะกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจะประชุมพิจารณาการเปิดให้นักลงทุน อาเซียนลงทุนปลูกป่าเสรีในไทย และเวลา 10.00 น. นายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

+++นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า โครงการให้ต่างชาติมาลงทุนปลูกป่าเป็นเรื่องจริง แต่เป็นลักษณะการร่วมทุน และต่างชาติที่เข้ามาปลูกป่าเป็นกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ไม้ที่กำหนดให้ปลูกมี 2 ชนิดคือ ไม้สักและไม้ยางนา ซึ่งเป็นไม้ที่ถูกลักลอบตัดจากป่ามากที่สุด ให้ลงทุนที่ดินที่มีโฉนด หรือที่ดินกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้จะเป็นผู้กำหนดพื้นที่ให้ปลูก

+++นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ทำจดหมายไปยัง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการศูนย์อำนวยการเตรียมความพร้อมฯ คัดค้านที่จะเปิดเสรีให้มีการลงทุนในสาขาการปลูกป่า และเปิดเสรีให้กับนักลงทุนนอกอาเซียน เนื่องจากเป็นเรื่องที่อ่อนไหวเพราะเกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จากที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติซึ่งควรสงวนสำหรับเกษตรกรรายย่อย  นายประพัฒน์ กล่าวว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติจะเสนอต่อประธานอนุกรรมการฯ 3 ประเด็นคือ 1.ให้สงวนการปลูกป่าเช่นเดียวกับการทำนา ทำสวน ทำไร่ 2.ให้คงข้อสงวนของไทยที่จะไม่เปิดเสรีให้กับนักลงทุนต่างชาติที่ได้ลงทุนในอาเซียนให้มีสถานะเหมือนนักลงทุนอาเซียน 3.ก่อนคณะอนุกรรมการจะเสนอเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรีต้องเปิดให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง และต้องส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาอีกชั้นหนึ่ง เพราะบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดให้หนังสือสัญญาเกี่ยวกับการค้าเสรีเขตศุลกากรร่วม หรือการให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติหรือทำให้ประเทศต้องสูญเสียสิทธิในทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดหรือบางส่วนต้องได้รับความเห็นชอบของ สนช.

+++ผู้แทนกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงความคืบหน้าตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่มีผลต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

+++นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย( ธปท. ) ประชุมชี้แจงในกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อแสดงมุมมองและวิสัยทัศน์ ก่อนจัดทำร่างรายงานกรอบปฏิรูปฯ เสนอต่อสภาปฎิรูปแห่งชาติ( สปช.)

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขาย ในแดนบวก โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 227.11 จุด ปิดที่ 18076.19 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 25.22 จุด  ปิดที่ 2099.50 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 45.39 จุด ปิดที่ 4982.83 จุด  แถลงการณ์คำชี้แนะล่วงหน้าฉบับล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุถึงเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน มีการคาดหมายว่า เฟดยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในอย่างน้อย 2-3 เดือนนี้

+++ ราคาน้ำมัน พุ่งขึ้นแรง หลังถ้อยแถลงระมัดระวังของเฟด กลบความกังวลต่อภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ที่พบว่าสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถ้อยแถลงเฟดที่บอกว่าจะยังไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักให้ราคาน้ำมันวานนี้ ปิดบวกอย่างแรง ส่วนราคาทองคำ ปิดบวกเช่นกัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,151.30 ต่อออนซ์

+++แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะทำการผ่าชันสูตรศพ นายนเรศ โรจนบุญส่งศรี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เสียชีวิต บริเวณสะพานห้วยเล็ก ต.หนองขาม จ.ชลบุรี  การผ่าชันสูตรศพ พล.ต.ต. นิติพงศ์ เนียมน้อย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้รอหนังสือการชันสูตรการเสียชีวิตอย่างละเอียดจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนกรณี ตั้งข้อสงสัยว่า ด.ต.สุพรรณ ชำนิ ผู้ยิงปืนใส่ นายนเรศหลบหนีไปแล้วนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ ด.ต.สุพรรณ ถูกย้ายมาช่วยราชการที่ บก.ภ. จว.ชลบุรี เพื่อไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับคดี ทั้งนี้ จากหลักฐานใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า มาจากการถูกยิงบริเวณศีรษะ และสมองช้ำอย่างรุนแรง เป็นเพียงคำวินิจฉัยเบื้องต้นเท่านั้น ยังคงต้องรอผลผ่าศพพิสูจน์ที่ชัดเจนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะมีการผ่าชันสูตรในวันนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.นิติพงศ์ ว่า ได้ แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับ ด.ต. สุพรรณ ชำนิ ตำรวจที่ตั้งด่านในวันเกิดเหตุ และรับว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมารับทราบข้อ กล่าวหา และดำเนินการทางวินัยควบคู่ไปด้วย  ขณะเดียวกันได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด