*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

19 มีนาคม 2558, 05:36น.


+++ความคืบหน้าเหตุกลุ่มคนร้ายประมาณ 5 คน ใช้อาวุธปืนกลมืออาก้า บุกเข้าไปในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบาร์โด ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภาตูนีเซียในกรุงตูนิส เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนกราดยิงใส่รถโดยสารของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจอดที่หน้าพิพิธภัณฑ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 8 ศพ เป็นชาวตูนีเซีย 1 ศพ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 7 ศพจากนั้นจึงใช้อาวุธจี้บังคับนักท่องเที่ยวที่เหลือเป็นตัวประกันอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ตรึงกำลังหนาแน่นโดยรอบจุดเกิดเหตุ หลังผ่านไปราว 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตัดสินใจบุกช่วยเหลือตัวประกัน จนเกิดการยิงปะทะกันส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และคนร้ายเสียชีวิต 2 ศพ ขณะที่คนร้ายที่เหลือสามารถหลบหนีไปได้ สำนักข่าวต่างประเทศทั้งบีบีซีและซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายฮาบิบ เอสซิด นายกรัฐมนตรีตูนีเซีย แถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย19 ศพ ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 17 ศพ รวมถึงชาวญี่ปุ่น อิตาลี โคลัมเบีย ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย โปแลนด์ สเปน เยอรมนี  และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 22 คน  เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ว่าเป็นกลุ่มไหน และยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจของการก่อเหตุ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายอาจมีเป้าหมายโจมตีอาคารรัฐสภาที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งขณะนั้นสมาชิกรัฐสภากำลังหารือกันเกี่ยวกับกฎหมายต้านก่อการร้าย แต่ถูกสกัดโดยหน่วยรักษาความปลอดภัย จึงเบนเข็มเปลี่ยนเป้าหมายมายังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แทน ทั้งนี้ มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมุ่งทำลายเศรษฐกิจของตูนีเซียเนื่องจากพุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป 



+++นางเฟเดอริกา โมเกรินี ผู้แทนระดับสูงฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ประณามว่าเป็นอีกครั้งที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) มุ่งเป้าโจมตีไปที่ประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน โดยนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานกรรมาธิการยุโรป และนายอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ ส่งข้อความแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียหาย ขณะที่นายมานูเอล วาลล์ส กล่าวประณามเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมยืนยันว่าฝรั่งเศสจะอยู่เคียงข้างรัฐบาลตูนีเซียในการต่อต้านการก่อการร้าย เช่นเดียวกับหลายประเทศที่ออกมาแสดงความเสียใจและประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งอิตาลี สหรัฐฯ และนายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ 



+++ หนังสือพิมพ์โยมิอุริของญี่ปุ่นรายงานว่า ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนเหตุคนร้ายโทรศัพท์ข่มขู่หลายครั้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงโตเกียวเมื่อเดือนที่แล้ว โดยระบุได้ว่าคนร้ายเป็นชาย พูดภาษาอังกฤษ และมีเจตนาขู่ฆ่านางแคโรไลน์ เคนเนดี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำญี่ปุ่น และนายอัลเฟรด แม็กเลบี กงสุลใหญ่สหรัฐฯประจำเกาะโอกินาวา อย่างไรก็ตาม โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯปฏิเสธจะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยระบุว่าเป็นระเบียบปฏิบัติที่ห้ามไม่ให้กล่าวถึงประเด็นด้านความปลอดภัยของทูต ก่อนหน้านี้ราว 2 สัปดาห์ นายมาร์ค ลิปเพิร์ต เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงโซลของเกาหลีใต้ ถูกคนร้ายบุกประชิดตัวแล้วใช้มีดกรีดใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บรุนแรง โดยทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไล่เลี่ยกันนี้ ได้นำมาซึ่งประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มีต่อเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯในต่างประเทศ และมาตรการด้านความปลอดภัยในการคุ้มกันทูต ทั้งนี้ นางเคนเนดี เป็นบุตรสาวของนายจอห์น เอฟ เคนเนดี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เธอเข้ารับตำแหน่งที่กรุงโตเกียวตั้งแต่เดือน พ.ย. 2556



+++ทางการสิงค์โปร์ กำลังหาคนปล่อยข่าวว่า นายลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์ ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า บิดาผู้ก่อตั้งประเทศ ถึงแก่อสัญกรรม ยืนยันว่า ไม่จริง อาการล่าสุด อาการทรุดหนักอยู่ในห้องไอซียู หลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจากอาการปอดอักเสบรุนแรงตั้งแต่เมื่อต้นเดือน ก.พ.



+++ชาวอิสราเอล รับเช้าวันใหม่ด้วยข่าวผลการเลือกตั้งทั่วไปที่สร้างความฮือฮาไปทั่วประเทศ เมื่อผลการนับคะแนนปรากฏว่า พรรคลิคุดของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ซึ่งเป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน ชนะการเลือกตั้งได้เก้าอี้ในสภาถึง 30 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 120 ที่นั่ง แซงหน้าพรรคชาตินิยมยิวของนายไอแซค เฮอร์ซอก คู่แข่งสำคัญ ที่ได้เพียง 24 ที่นั่ง ประชาชนต่างยินดีกับชัยชนะของพรรคลิคุด และคาดหวังว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว ขณะที่พรรคลิคุดได้ออกแถลงการณ์จะตั้งรัฐบาลใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ โดยขณะนี้เริ่มขั้นตอนเจรจาทาบทามพรรคการเมืองต่างๆ แล้ว



+++ด้านปาเลสไตน์แสดงความเห็นเชิงไม่พอใจที่พรรคลิคุดเป็นฝ่ายชนะ เนื่องจากในช่วงหลังๆ นายเนทันยาฮู แสดงจุดยืนมาตลอดว่า จะไม่ยอมให้ปาเลสไตน์ได้ก่อตั้งเป็นรัฐ และจะไม่ยอมถอนการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์เด็ดขาด



+++แม้ว่ารัฐบาลตุรกี ตกลงที่จะเนรเทศชาวอินโดนีเซีย16คนที่ถูกควบคุมตัวในข้อหาพยายามข้ามพรมแดนเข้าไปยังซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสแต่ชาวอินโดนีเซียที่ถูกควบคุมตัวไว้ยังดึงดันปฏิเสธที่จะเดินทางกลับอินโดนีเซียและยืนยันที่จะเดินทางไปยังซีเรียดินแดนสงครามให้ได้  ชาวอินโดนีเซีย 16คน เป็นชาย1คน,หญิง 4คน และเด็ก11คน ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ในเมืองกาซีอันเตปเมืองพรมแดนตุรกี ห่างจากเมืองอเลปโปประเทศซีเรีย ไปทางเหนือประมาณ97กิโลเมตร ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานแจ้งว่าพวกเขาได้รับคำมั่นสัญญาว่าจะได้บ้าน1หลัง,งาน และเงินอีก20ล้านรูเปียห์หรือประมาณ 5หมื่นกว่าบาทหรืออื่น ๆ อีกหากเข้าร่วมกับไอเอสในอิรักและซีเรีย



+++ นอกจากนี้ กลุ่มหัวรุนแรงในลิเบีย ยังได้ลักพาตัวชาวต่างชาติ20คนที่ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลิเบียจากนั้นก็ยอมปล่อยตัวพวกเขาภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหากพวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่ต้องไม่ย้ายหนีไปไหนเพื่อจะได้สามารถรักษาสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรงได้โดยมีมือปืนประมาณ 30คนบุกจู่โจมโรงพยาบาลอิบันซีนา ในเมืองเซอร์เตเมื่อวันจันทร์ ขณะที่มีรถบัสรอรับเจ้าหน้าที่ไปยังกรุงตริโปลีเมืองหลวงลิเบีย



+++นายแบร์นาร์ด คาเซเนิร์ฟ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศส กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาว่ารัฐบาลได้ตัดสิทธิประโยชน์และสวัสดิการเมื่อปีที่แล้วสำหรับพลเมือง 290 คนที่ถูกระบุว่าเป็นนักรบพลีชีพ ระบุว่าคนกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางออกจากฝรั่งเศสเพื่อไปสู้รบในอิรักหรือซีเรีย พร้อมแจ้งรายชื่อบุคคลกลุ่มนั้นไปยังหน่วยงานสวัสดิการสังคมฯแล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสได้ดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้พลเมืองไปเข้าร่วมกลุ่มนักรบพลีชีพในต่างแดน พร้อมทั้งควบคุมไม่ให้มีการเผยแพร่อุดมการณ์หัวรุนแรงของอิสลามในฝรั่งเศส รวมถึงการยึดหนังสือเดินทางของพลเมือง 6 คนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังการวางแผนจะเดินทางไปยังซีเรีย นอกจากนั้นในสัปดาห์นี้ รัฐบาลได้ทำการปิดหลายเว็บไซต์ที่รัฐบาลระบุว่า โน้มเอียงเข้ากับลัทธิก่อการร้าย



+++ยังคงติดตามเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการเปิดอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แห่งใหม่ปะทะกับตำรวจในกรุงแฟรงก์เฟิร์ต ของเยอรมนี  มีการจุด ไฟเผารถยนต์หลายคันและขว้างก้อนหินใส่ตำรวจบาดเจ็บไปหลายคนและมีการควบคุมผู้ประท้วงไปได้หลายร้อยคน กลุ่มอ๊อคคิวพาย เดินทางด้วยรถไฟราว 800 คน จากกรุงเบอร์ลินเพื่อมาชุมนุมในแฟรงก์เฟิร์ต และรถบัสอีก 60 คันจาก 39 เมืองทั่วยุโรป คาดว่ามีผู้ประท้วงราว 10,000 คน ไม่พอใจการเปิดสำนักงานใหญ่อีซีบี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของระบบทุนนิยม





+++ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ของกรีซ จะหยิบยกปัญหาเรื่องสภาพคล่องมาหารือในที่ประชุมระหว่างเขากับผู้นำระดับสูงของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) รวมถึงนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางแห่งยุโรปและนายฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นอกรอบการประชุมสุดยอดของผู้นำอียูในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ในสัปดาห์นี้ นายซีปราสจะชี้แจงเรื่องข้อตกลงที่ทำไว้กับยูโรกรุ๊ปเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ว่า ควรจะเพิ่มเติมด้วยเรื่องการเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้แก่กรีซ



+++อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป(อีซี)จะหารือกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนีและประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรื่องข้อเสนอการเชื่อมโยงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกับเรื่องการปฏิบัติให้ครบถ้วนตามข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนตามที่รัฐบาลยูเครนและกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียได้ลงนามไว้ที่กรุงมินสก์ของเบลารุสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์



+++หนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์รายงานว่า เมียนมาร์จะตรวจสอบเรือของรัฐทั้งหมดหลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือข้ามฟากนอกชายฝั่งรัฐยะไข่ทางตะวันตกของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 61 ศพ รัฐมนตรีคมนาคมเมียนมาร์ เปิดเผยว่า เรือดังกล่าวบรรทุกเกินพิกัดขณะพลิกคว่ำ ระหว่างเดินทางจากเมืองจ๊อกผิ่วไปยังเมืองซิตตเว รัฐยะไข่ โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 200 คน ทางการเมียนมาร์ได้สั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบเรือลำอื่นๆ ซึ่งแล่นในน่านน้ำของเมียนมาร์แล้ว ชาวเมียนมาร์ที่อาศัยตามแนวชายฝั่งและริมน้ำมักเดินทางโดยเรือข้ามฟาก





 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X