ผู้นำศรีลังกาตำหนิรัฐบาลชุดก่อน ทำเศรษฐกิจเสียหายทั้งประเทศ เร่งเจรจาหาเงินกู้

          บีบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ของศรีลังกา แถลงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของศรีลังกาว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาเสียหายทั้งระบบ คาดว่าสถานการณ์ของประเทศจะยังคงแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชน 22 ล้านคนของศรีลังกาจะเจอกับปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง กระแสไฟฟ้า ยารักษาโรคและอาหาร ขณะนี้ รัฐบาลศรีลังกาอยู่ระหว่างการเจรจาขอกู้เงินฉุกเฉินกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)และหุ้นส่วนอื่นๆทั่วโลก เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้กับศรีลังกา

          นายวิกรมสิงเห ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม หลังผู้นำคนก่อนคือ นายมหินทา ราชปักษะ ลาออก กล่าวว่า การเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ เพื่อช่วยกอบกู้ประเทศให้ฟื้นตัวใหม่อีกครั้ง หลังจากระบบเศรษฐกิจล่มทั้งระบบแล้วไม่ใช่ภารกิจที่จะทำได้ง่ายดาย ตำหนิรัฐบาลชุดก่อนว่า ล้มเหลวในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการปล่อยให้เงินสำรองต่างประเทศของศรีลังกาลดลงในระดับต่ำมาก สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรงมาจนถึงปัจจุบัน

          นายวิกรมสิงเห ระบุว่า ถ้ารัฐบาลชุดก่อนดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ล้มครืนมาตั้งแต่แรก เช่น หาทางรักษาระดับเงินสำรองต่างประเทศของศรีลังกาไม่ให้ต่ำจนเกินไป วิกฤติของประเทศอาจจะไม่หนักมาก ประชาชนจะไม่เดือดร้อนมากเท่ากับทุกวันนี้

          ด้านตำรวจศรีลังกา ระบุว่า ในเมืองใหญ่ๆเช่น กรุงโคลัมโบ ประชาชนหลายร้อยคนยังคงเข้าคิวหลายชั่วโมงเพื่อซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงและแก๊สหุงต้มตามปั๊มน้ำมันต่างๆ ซึ่งในบางครั้งเกิดเหตุทำร้ายร่างกายในกลุ่มประชาชนที่เข้าแถวเนื่องจากบางคนพยายามจะลัดคิว มีคนเสียชีวิต 11 รายในสัปดาห์นี้

#ศรีลังกา

#วิกฤติเศรษฐกิจ

#กู้ไอเอ็มเอฟ