ชาวอเมริกันจำนวนมากโทษ ‘ไบเดน’ คือสาเหตุที่ทำให้น้ำมันแพง

22 มิถุนายน 2565, 13:10น.


          สถาบันสำรวจความคิดเห็นทางการเมือง รัสมุสเซนโพล (Rasmussen poll) ของสหรัฐฯ เผยแพร่ผลการสำรวจที่พบว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียง 1 ใน 10 หรือร้อยละ 11 เท่านั้นที่เชื่อคำพูดของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่ว่าประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย คือ สาเหตุที่ทำให้น้ำมันในสหรัฐฯ มีราคาแพง



          ชาวอเมริกันส่วนใหญ่โทษว่า สาเหตุเกิดจากประธานาธิบดีไบเดน มากกว่าร้อยละ 52 ของผู้ตอบแบบสำรวจชี้ว่า ประธานาธิบดีไบเดนมีนโยบายด้านพลังงานที่ไม่ดี และร้อยละ 29 เห็นว่า อุตสาหกรรมพลังงาน กำลังใช้ประโยชน์จากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันเพื่อขึ้นราคา



          บทวิเคราะห์ของผู้สำรวจความเห็น ระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดนเองก็เริ่มจะรู้ว่าประชาชนไม่เชื่อคำกล่าวโทษว่ารัสเซียเป็นต้นเหตุทำให้ราคาน้ำมันแพง จึงทำให้คำพูดของไบเดนในระยะหลังจึงเอนเอียง ไปกล่าวหา ภาคอุตสาหกรรมพลังงานว่า จงใจงดการขุดเจาะน้ำมัน “เพราะการไม่ผลิตน้ำมันเพิ่มจะทำให้พวกเขาทำเงินได้มากขึ้น”



          และการที่สหรัฐฯ สั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคมไม่มีผลกระทบใดต่อราคาพลังงานในประเทศ เพราะตามข้อเท็จจริงคือ ก่อนหน้านั้นสหรัฐฯนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเพียงร้อยละ 2 และสหรัฐฯ เองคือผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติ ดังนั้นคำสั่งห้ามจึงไม่มีผลต่อราคาพลังงานในสหรัฐฯ



          ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณร้อยละ 92 มองว่าราคาก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงอื่นๆ ที่สูงขึ้น เป็นปัญหาร้ายแรง โดยร้อยละ 68 ระบุว่าเป็นปัญหา “ร้ายแรงมาก”



          ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียงร้อยละ 27 เท่านั้นที่ให้คะแนนการจัดการเศรษฐกิจของประธานาธิบดีไบเดนว่า "ยอดเยี่ยม" หรือ "ดี" ซึ่งลดลง 5 จุดจากระดับเมื่อเดือนธันวาคม



          ขณะที่ร้อยละ 57 ให้คะแนนผลงานในระดับ "แย่"ชาวอเมริกันเกือบสามในสี่ กล่าวว่าเศรษฐกิจแย่ลงในปีที่แล้ว มีเพียงร้อยละ 11 ที่บอกว่าดีขึ้น



 



 



...



#โจไบเดน



#น้ำมันแพง

ข่าวทั้งหมด

X