ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผย มติร่วมกันของผู้ประกอบการรถโดยสาร บริษัทรถร่วมบริการทั่วประเทศจาก 27 บริษัท ตกลงที่จะลดเที่ยววิ่งรวมกันลง 80% โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หลังจากผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระค่าน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจุบันผู้ประกอบการต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึงเที่ยวละกว่า 1,600 บาท และขณะนี้แนวโน้มน้ำมันเชื้อเพลิงคงยังจะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีก ซึ่งที่ผ่านมาภาระที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ต้องหยุดรถไปแล้วถึง 40% ของจำนวนรถโดยสารที่เป็นสมาชิกที่มีประมาณ 20,000 คัน
โดยทางเดียวที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเดินรถได้ตามปกติต่อไปได้ คือ การต้องได้ปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามตารางคำนวณอัตราค่าโดยสาร ที่กรมการขนส่งทางบกเป็นคนกำหนดขึ้นเอง แต่ไม่เคยนำมาใช้ให้ผู้ประกอบการได้ปรับค่าโดยสารตามต้นทุนที่แท้จริง
ครั้งหลังสุดผู้ประกอบการได้ปรับราคาในปี 2562 ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 27.79 บาท โดยผู้ประกอบการจัดเก็บค่าโดยสารอยู่ที่ 53 สตางค์ต่อกิโลเมตร โดยครั้งนี้ผู้ประกอบการต้องการปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีก 6 สตางค์ต่อกิโลเมตร หรือจัดเก็บในอัตรา 59 สตางค์ต่อกิโลเมตร แม้ว่าจะไม่สามารถครอบคลุมต้นทุนเดินรถทั้งหมดแต่ก็พอทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้
ส่วนข้อเสนอที่กรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือโดยความเห็นชอบของกระทรวงคมนาคม, กระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ที่จะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ในการให้คูปองส่วนลดราคาน้ำมันลิตรละ 2 บาทนั้น ผู้ประกอบการคงไม่สามารถรับเงื่อนไขของมาตรการดังกล่าวได้ โดยนายพิเชษฐ์ระบุว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับตัวสูงขึ้นไปจากอัตราที่เคยจัดเก็บแล้วถึง 8 บาทต่อลิตร การให้คูปองน้ำมัน 2 บาท/ลิตร ขณะนี้คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
แต่หากมีการปรับราคาค่าโดยสารอีกในขณะนี้จะทำให้ผู้ใช้บริการรถน้อยลงไปอีกหรือไม่ นายพิเชษฐ์กล่าวว่า หากได้ปรับราคาค่าโดยสาร เรื่องจำนวนผู้ใช้บริการนั้นเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการจะสามารถบริหารจัดการได้ ไม่น่าเป็นห่วง หากในอนาคตราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงผู้ประกอบการยืนยันว่าพร้อมจะมีการปรับลดค่าโดยสารตามต้นทุนพลังงานที่เป็นจริง
ส่วนสถานการณ์รถโดยสารในปัจจุบันนี้มีทั้งหมด ประมาณ 20,000 คันทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ได้หยุดเดินรถแล้วประมาณ 40% เพราะทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ขณะเดียวกันจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 40-50% หรือเฉลี่ยประมาณ 17-18 คนต่อคัน โดยใช้บริการเฉพาะช่วงเช้า-เย็นเท่านั้น
สำหรับข้อมูลของบริษัทที่จะมีการปรับลดเที่ยววิ่งลง 80% ในเส้นทางของแต่ละบริษัทฯ ประกอบด้วย
1. บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง
2. บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด 32 เส้นทาง
3. บริษัท กิตติสุนทร จำกัด 5 เส้นทาง
4. บริษัท จักพงษ์ทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง
5. บริษัท ลาดหลุมแก้วขนส่ง 2 เส้นทาง
6. บริษัท ชินวรเดินรถขนส่ง 1 เส้นทาง
7. บริษัท 407 พัฒนา จำกัด 9 เส้นทาง
8. บริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ จำกัด 5 เส้นทาง
9. บริษัท ส.วิริยะทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง
10. บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง
11. บริษัท ชัยนาททัวร์ จำกัด 2 เส้นทาง
12. บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด 16 เส้นทาง
13. บริษัท ปักธงชัยร่วมใจเดินรถ จำกัด 2 เส้นทาง
14. บริษัท นครชัยทัวร์ จำกัด 4 เส้นทาง
15. บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด 1 เส้นทาง
16. บริษัท นครชัย21 จำกัด 1 เส้นทาง
17. บริษัท วิศวกรเสนา จำกัด 3 เส้นทาง
18. บริษัท วัชรินทร์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง
19. บริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง
20. บริษัท ราชสีห์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง
#ลดเที่ยววิ่ง
#น้ำมันแพง