นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความร่วมมือไทย-จีน ส่งผลให้การส่งออกผลไม้ของไทยมีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับกระทรวงพาณิชย์ ด้านการตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ การป้องกันการปนเปื้อนด้วยมาตรฐาน GMP Plus เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลไม้ไทยเป็นที่ยอมรับและต้องการของตลาดจีนอย่างมาก โดยเฉพาะทุเรียนที่ปีนี้ส่งออกทำลายสถิติปี 2564 โดยฤดูกาลปี 2565 ระหว่าง 1 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มิถุนายน 2565 มีปริมาณส่งออก 433,000 ตัน ในขณะที่ปี 2564 ทั้งปีมีปริมาณการส่งออก 425,000 ตัน
กระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนความร่วมมือไทย-จีน ประกอบด้วย
1) การเพิ่มศักยภาพการตรวจปล่อยและขนส่งสินค้า
1.1 ขยายวันทำการของด่านทางบก 4 แห่งจาก 5 วันเป็น 7 วันและขยายเวลาทำการเป็น 10 ชั่วโมงต่อวัน
1.2 ท่าเรือชินโจในเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วง เพิ่มความพร้อมในการรับเรือสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบังจากเดิม 4 เที่ยว/สัปดาห์ เป็น7 เที่ยว/สัปดาห์
1.3 เพิ่มการขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนทางอากาศ
2) การหารือแนวทางจัดตั้ง Green Lane เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าเกษตรจากไทยไปจีนผ่านพรมแดนทางบก
3) การเร่งรัดการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการตรวจผ่านผลไม้ส่งออกจากไทย ณ ด่านสถานีรถไฟต่าง ๆ ในจีน
4) การเพิ่มเส้นทางขนส่งสินค้าผลไม้จากไทยไปจีน โดยทางจีนอนุมัติสนามบินหนานหนิงอู๋ชวีเป็นด่านจำเพาะสำหรับนำเข้าสินค้าผลไม้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง
แม้ทางการจีนจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยอย่างมาก แต่มาตรการ Zero-Covid ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด ทางกระทรวงเกษตรฯ จึงขอให้ผู้ส่งออกผลไม้ทุกชนิดปฏิบัติตามมาตรฐาน GMP plus เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนไปกับตู้สินค้า บรรจุภัณฑ์ และผลไม้ เพราะหากมีการตรวจพบการปนเปื้อน สินค้าจะถูกทำลายหรือถูกระงับการส่งออก และด้วยในช่วงนี้กำลังเข้าสู่ฤดูลำไย ทางกระทรวงฯ จึงได้เตรียมความพร้อมการส่งออกลำไยเพื่อให้ปลอดโรคเพลี้ยแป้งและการปนเปื้อนโควิด-19 โดยเชิญผู้เกี่ยวข้อง เช่น เกษตรกร สหกรณ์ ล้ง ผู้รวบรวมผลไม้ ผู้ส่งออก มาร่วมหารือ โดยวางแผนจะนำโมเดลที่ดำเนินการกับทุเรียนมาใช้
....
#ทำเนียบรัฐบาล
#ส่งออกผลไม้ไปจีน