นายพี นันดาลัล วีระสิงเห ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกา เปิดเผยว่า ปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศและความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของชาวศรีลังกา อาจจะไม่รุนแรงมากดังเช่นในปัจจุบัน ถ้ารัฐบาลชุดก่อนของอดีตนายกรัฐมนรีมหินทา ราชปักษา รีบไปเจรจากู้เงินฉุกเฉินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)ตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมทั้งเริ่มเจรจากับเจ้าหนี้ต่างชาติตั้งแต่ปีที่แล้วเรื่องการขอเวลาชำระหนี้ วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลผิดพลาดที่ไม่รีบติดต่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกตั้งแต่แรก
ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกา แสดงความเห็นเรื่องนี้ ขณะรัฐบาลชุดใหม่ของนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พยายามออกมาตรการต่างๆแก้วิกฤติเศรษฐกิจของศรีลังกา ในปัจจุบัน รวมถึงการติดต่อเจรจากู้เงินกับไอเอ็มเอฟอีกครั้ง
ทั้งนี้ คณะทำงานของไอเอ็มเอฟ จะไปเยือนกรุงโคลัมโบ เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กับรัฐบาลศรีลังกาในวันจันทร์หน้า โดยศรีลังกาต้องการกู้เงินจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงไอเอ็มเอฟ รวม 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีนี้ เพื่อให้สามารถสั่งซื้อสินค้าที่จำเป็นเช่น อาหารและน้ำมันจากต่างแดน
ผลสำรวจของโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า 2 ใน 3 ของครัวเรือนทั้งหมดในศรีลังกามีความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจจนถึงขั้นปรับลดปริมาณอาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ เนื่องจากประเทศอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรคและน้ำมัน สินค้าที่ขายในท้องตลาดมีราคาแพง เมื่อเดือนที่แล้วศรีลังกาได้ผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
#ศรีลังกา
#วิกฤติเศรษฐกิจ