หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ตำหนิบริษัทโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯที่มีกำไรมหาศาลจากการกลั่นน้ำมัน ขณะที่ชาวอเมริกัน ประสบความยากลำบากจากปัญหาราคาน้ำมันแพงทะลุ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/แกลลอน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ นับตั้งแต่ต้นปีนี้ กำไรจากการกลั่นน้ำมันเบนซินและดีเซลพุ่งขึ้นถึง 3 เท่า และขณะนี้กำลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายงานระบุว่า ในวันที่ 23 มิ.ย.65 นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐฯ เตรียมเจรจากับบริษัทโรงกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดน ระบุในจดหมายที่ส่งถึงบริษัทน้ำมันหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงเอ็กซอน โมบิล และเชฟรอนว่า บริษัทต่างๆจะต้องดำเนินการทันที เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันเบนซิน ดีเซล และผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นประเภทอื่นๆ โดยร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ และรัฐบาลเตรียมใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันและความสามารถในการกลั่นน้ำมันของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สมรรถนะในการกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ได้ลดลงนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเป็นสาเหตุของการพุ่งขึ้นของราคาเชื้อเพลิงในประเทศ ขณะที่ ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่มีการเปิดเศรษฐกิจ และประชาชนกลับมาเดินทางอีกครั้ง
ส่วนความเคลื่อนไหวตลาดน้ำมัน ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.65)
-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียตหรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.ค.65 เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนส.ค.65 เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ติดตามรายละเอียด : https://www.js100.com/en/site/news/view/118883
#สหรัฐฯเผชิญน้ำมันแพง