นายฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปี 2564 จำนวนผู้อพยพลี้ภัยทั่วโลกคือประมาณ 89 ล้าน 3 แสนคน และเมื่อรัสเซียบุกรุกยูเครน จำนวนผู้อพยพลี้ภัยเพิ่มขึ้นอีก 14 ล้านคน ทำให้โลกมีผู้อพยพลี้ภัยผ่านระดับ 100 ล้านคนเป็นครั้งแรก และเขาเตือนว่าวิกฤตความไม่มั่นคงด้านอาหารทั่วโลก จะเร่งให้มีผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นไปอีก จึงเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศร่วมกันแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ อย่างยั่งยืน
ในรายงานประจำปีของ UNHCR ระบุว่า ปี 2564 คือปีที่มีความขัดแย้งรุนแรงยืดเยื้อในหลายประเทศ ร่วมด้วยปัญหาขาดแคลนอาหาร เงินเฟ้อ และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ณ สิ้นปี มีประชากร 27 ล้าน 1 แสนคนมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ขณะที่จำนวนผู้ขอลี้ภัยเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เป็น 4 ล้าน 6 แสนคน
และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 15 ติดต่อกัน ของกลุ่มผู้พลัดถิ่นภายในประเทศของตนเองเนื่องจากความขัดแย้ง โดยมีจำนวนถึง 53 ล้าน 2 แสนคนแล้ว
อย่างไรก็ตาม นายกรันดีได้เปรียบเทียบการตอบรับของประชาคมโลก ต่อสถานการณ์ผู้อพยพลี้ภัยจากเหตุการณ์ต่างๆ ว่าเป็นไปอย่างไม่เท่าเทียมกัน โดยในกรณีของยูเครนซึ่งกลุ่มประเทศยุโรปให้การต้อนรับเป็นอย่างดีหลายประเทศให้สิทธิเทียบเท่ากับประชากรของตน ตรงข้ามกับผู้ที่หลบหนีสงครามมาจากซีเรียและอัฟกานิสถาน ซึ่ง UNHCR จะได้รับคำตอบว่าไม่สามารถรับผู้ลี้ภัยมาตั้งถิ่นฐานได้
...
#สหประชาชาติ
#วิกฤตอาหารโลก