ปัจจัยภายในและภายนอก ทำให้จีนเน้นความสำคัญเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร เป็นนโยบายที่รัฐบาลประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน ให้ความสำคัญในลำดับต้นๆมานับแต่โรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลกเมื่อปี 2563
ปัจจัยภายในประเทศ ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อยลง ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศ ทำให้จีน ต้องนำเข้าผลผลิตเพิ่มมากขึ้น
นายแอนดรู ไวท์ลอว์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Thomas Elder Markets เปิดเผยว่า ประเทศจีนเร่งนำเข้าอาหาร เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพดและข้าวบาร์เลย์จากต่างแดนมาเก็บไว้ในโกดังสินค้าของรัฐในระยะหลังๆมานี้ เพื่อความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ เพิ่มปริมาณการนำเข้าจาก 20 ล้านตันต่อปี เมื่อ 4 ปีก่อน มาเป็น 50 ล้านตันต่อปีในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ประเทศจีน ซึ่งพึ่งพาตนเองในด้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ ปลูกข้าวและข้าวสาลี มีผลผลิตสูงกว่าร้อยละ 95 และเก็บเกี่ยวข้าวโพด ถึงร้อยละ 80 ของผลผลิตในฤดูหนาว(ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม) แต่นักวิเคราะห์ เตือนว่า ราคาข้าวโพดในปีนี้ อาจสูงกว่าปีก่อนร้อยละ 25 อยู่ที่ 3,000 หยวน หรือ 15,588 บาท ต่อตัน เนื่องจาก ภาวะเงินเฟ้อพุ่งขึ้นทั่วโลกและสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนว่า การสู้รบในยูเครนจะยืดเยื้ออีกนานเพียงใด จะทำให้การนำเข้าสินค้าอาหารจากต่างแดนมีราคาแพงกว่าเดิม
ด้านนางดาริน ฟรายริชส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซิโทเนีย คอนซัลติง(Sitonia Consulting) ผู้วิจัยการเกษตรของจีน ระบุว่า ถ้าจีนลงเอยด้วยการต้องไปสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากตลาดโลก เพื่อสำรองไว้ใช้ในประเทศ จะทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆขยับขึ้นเช่นกัน
ราคาอาหารทั่วโลกพุ่งขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจาก ยูเครนเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพดและน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ต้นทุนของสินค้าต่างๆมีราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าวโพดสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ในรอบ 9 ปีในเดือนเมษายน ขณะที่ ราคาถั่วเหลืองที่ซื้อขายในตลาดโลก เพิ่มสูงสุดในรอบ 10 ปีในเดือนนี้
ขณะที่ จีน ก็มีปัญหาภายในประเทศ นางอีเวน เพย์ นักวิเคราะห์สินค้าเกษตรจากบริษัททริเวียม ไชน่า(Trivium China) บริษัทที่ปรึกษาของจีน เปิดเผยรายละเอียดว่า
-ปัจจัยลบจากต้นทุนการผลิตทางเกษตรกรรม เช่น น้ำมันและปุ๋ยมีราคาแพง
-วิกฤติด้านแรงงานในภาคเกษตรกรรมจากมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซ้ำหลายครั้ง เกษตรกรไม่สามารถไปทำการเกษตรได้ตามปกติ
-ผลกระทบด้านการขนส่งสินค้า
-การใช้การผลิตแบบดั้งเดิม ไม่ใช้เครื่องจักร เพื่อเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น อาจจะส่งผลให้เกษตรกรชาวจีน เก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรน้อยกว่าทุกปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง(ระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม)ปีนี้ โดยเฉพาะสินค้าหลักๆ เช่น ถั่วเหลืองและข้าวโพด
#จีน
#ความมั่นคงด้านอาหาร