ชาวอเมริกันผิวสีประท้วงเฟด ประชุมเตรียมขึ้นดอกเบี้ย กระทบรายได้-ตกงาน

          มีการชุมนุมประท้วงคัดค้าน ขณะที่กรรมการบริหารของธนาคารกลาง หรือ เฟดของสหรัฐฯ เริ่มประชุมพิจารณาเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ยที่สำนักงานใหญ่ของเฟดในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 2 วันเริ่มจากวันนี้ นายเบนจามิน ดุลชิน ผู้อำนวยการองค์กรเซ็นเตอร์ ฟอร์ พอพิวลาร์ ฟอร์ เดโมเครซี (Center for Popular Democracy) แกนนำผู้จัดประท้วง เปิดเผยว่า กลุ่มพิทักษ์แรงงานของสหรัฐฯ ชุมนุมประท้วงที่บริเวณด้านนอกของเฟด สำนักงานใหญ่  คัดค้านการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะปรับขึ้นถึงร้อยละ 0.75 สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ จะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น

          ผู้ประท้วง เรียกร้องว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยในสหรัฐฯตกงาน แม้ว่า การควบคุมอัตราเงินเฟ้อเป็นนโยบายสำคัญของเฟด แต่การส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถประกอบธุรกิจและยังคงจ้างแรงงานต่อไปเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทเอกชนบางแห่งซึ่งแบกรับต้นทุนไม่ไหวจนต้องปรับลดค่าใช้จ่าย เช่น เลิกจ้างแรงงาน ส่งผลกระทบกลุ่มผู้มีรายน้อยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาและชาวอเมริกันเชื้อสายละตินหรือฮิสแปนิก ยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำทางรายได้มากขึ้นระหว่างชาวอเมริกันผิวขาวกับชนกลุ่มน้อย

          ปัจจุบัน อัตราว่างงานในสหรัฐฯต่ำเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ร้อยละ 3.6 ทำให้เฟดเริ่มหันมาให้ความสนใจมากขึ้นในเรื่องการควบคุมอัตราเงินเฟ้อซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 8.6 ในเดือนพฤษภาคม สูงที่สุดในรอบ 40 ปี แต่ยังคงมีปัญหาเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชาชนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย เช่น ชนผิวดำมีอัตราว่างงานร้อยละ 6.2 ในเดือนพฤษภาคม สูงกว่าชาวอเมริกันผิวขาวเกือบสองเท่า และสูงกว่าอัตราว่างงานร้อยละ 5.4 ก่อนที่โควิด-19เริ่มระบาดในปี 2562

#สหรัฐฯ

#นโยบายดอกเบี้ย

#ประท้วง