‘ไบเดน’ ไม่พอใจถูกวิจารณ์ว่าใช้จ่ายงบประมาณโดยประมาท

          ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลของเขามีการใช้จ่ายเงินงบประมาณมากเกินไป จนทำให้ปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น ทั้งอ้างว่าเขาคือนักสู้ปัญหาขาดดุลงบประมาณ และกล่าวโทษพรรครีพับลิกันที่ขัดขวางไม่ให้เขาออกมาตรการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ

          ในการกล่าวต่อที่ประชุมสหพันธ์สหภาพแรงงาน AFL-CIO ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในฟิลาเดลเฟีย ประธานาธิบดีไบเดนแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมากถึงกับตะโกนว่า เขาไม่ต้องการได้ยินเรื่อง “โกหก” เกี่ยวกับการใช้จ่ายโดยประมาทอีกต่อไป เพราะสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินการอยู่คือการเปลี่ยนชีวิตของผู้คน โดยโต้แย้งว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คือผู้ที่สร้างปัญหาขาดดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้าน 6 แสนล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณปัจจุบัน หลังจากตัดลดลงไปแล้ว 350,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณแรก

         อย่างไรก็ตาม กลุ่มตรวจสอบข้อเท็จจริง (Factcheck.org) ระบุว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนเข้ารับตำแหน่ง รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นไปอีก 2 ล้าน 3 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564 และ 2565 ทำให้นักวิจารณ์จำนวนมากตำหนิโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะแผนกู้ภัยอเมริกันมูลค่า 1 ล้าน 9 แสนล้านดอลลาร์และร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้าน 2 แสนล้านดอลลาร์ ว่ามีส่วนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

          ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่าสาเหตุของเงินเฟ้อเกิดจากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และสถานการณ์โควิด-19 คือต้นเหตุของวิกฤตเงินเฟ้อ ทั้งกล่าวโทษฝ่ายนิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันว่าขัดขวางแผนการทำงานของเขาในการลดค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวธรรมดา

          นายทอม คอตตัน วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน กล่าวตอบโต้ว่า การพูดจาเสียงดังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าการใช้จ่ายโดยประมาทของประธานาธิบดีไบเดนทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ

...

#โจไบเดน

#ขาดดุลงบประมาณ