กลุ่มรณรงค์ความปลอดภัยจากปืน (March For Our Lives : MFOL) ซึ่งก่อตั้งโดยผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียนในพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดา เมื่อปี 2561 จัดการชุมนุมประท้วงในหลายเมืองของสหรัฐฯ เรียกร้องให้วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายหลายฉบับที่เป็นการเพิ่มความเข้มงวดในการครอบครองอาวุธปืน หลังจากที่อาวุธถูกนำไปใช้ในการก่อเหตุรุนแรงหลายร้อยครั้งในปีนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงเหตุกราดยิงในโรงเรียนประถมศึกษาในรัฐเท็กซัส ซึ่งมีนักเรียนและครูเสียชีวิต ซึ่งพวกเขา ระบุว่า มีการรวมกลุ่มประท้วง 450 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงที่วอชิงตัน ดี.ซี. นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส และชิคาโก นายเทรวอน บอสลีย์ แกนนำกลุ่มกล่าวในแถลงการณ์ว่า จะไม่ยอมให้นักการเมืองเพิกเฉยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น
ส่วนนายเดวิด ฮ็อกก์ หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่พาร์คแลนด์ กล่าวกับผู้ประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่าการสังหารเด็กในเมืองยูวัลดีทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่การอภิปรายที่ไม่รู้จบ
นอกจากนี้ กลุ่ม MFOL ยังเรียกร้องให้มีการห้ามใช้อาวุธโจมตี มีตรวจสอบภูมิหลังผู้ซื้อปืนที่มีความเป็นสากล มีระบบการออกใบอนุญาตระดับชาติ และมีการจดทะเบียนเจ้าของปืน ซึ่งผู้ประท้วงบางคนระบุว่า ญาติซึ่งเป็นมุสลิมของเขายังถูกตรวจสอบประวัติมากกว่าผู้ซื้อปืน อย่างไรก็ตามกลุ่มไม่สนับสนุนให้ครูพกอาวุธ เพราะเมื่อเกิดเหตุรุนแรงขึ้น เด็กๆ จะเข้ามาหาครูเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งอาจนำไปสู่ความสูญเสีย
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ทวีตข้อความสนับสนุนการประท้วง และเรียกร้องให้สภาคองเกรส "ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ปืนด้วยสามัญสำนึก" ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่กฎหมายจะไม่ผ่านความเห็นชอบในวุฒิสภา ที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก แต่ประธานาธิบดี ระบุว่า กลุ่มผู้เจรจาของวุฒิสภา ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนข้อตกลงการควบคุมอาวุธปืน และการยึดอาวุธปืนจากบุคคลที่มีพฤติการณ์เป็นอันตรายต่อผู้อื่น
...
#สหรัฐอเมริกา
#ต่อต้านอาวุธปืน
@AMarch4OurLives