*รัฐบาลแนะวิธีไถกลบเตรียมพื้นที่การเกษตร ดีกว่าการเผา สร้างหมอกควันในภาคเหนือ*

การแก้ไขปัญหาหมอกควัน ในพื้นที่ภาคเหนือ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้ คณะรัฐมนตรีรับทราบว่า หมอกควันที่เกิดขึ้นมาจาก 3 ส่วน คือ การเผาในพื้นที่การเกษตรร้อยละ16  เผาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร้อยละ43 เผาในพื้นที่ป่าสงวนร้อยละ 41  เพื่อเตรียมพื้นที่เพราะปลูก  ส่วนหมอกควันที่มาจาก พม่าและอินโดนีเซีย นั้นมาจากกระแสลมที่พัดนำหมอกควันเข้ามายังประเทศไทย

หลังการลงพื้นที่ ได้เพิ่มหน่วยดับไฟในพื้นที่  ตั้งเครื่อขายเฝ้าระวัง ,รวมถึงเพิ่มเที่ยวบินฝนหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด  ส่วนการวางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาว ก็จะมีการส่งเสริมเกษตรกร ร่วมกลุ่มกัน และรัฐบาลจะสนับสนุนรถไถ ให้เกษตรกรใช้การไถกลบพื้นที่การเกษตร แทนการเผา เบื้องต้นทางรัฐบาลก็จะจัดหารถไถ โดยการเช่าภาคเอกชนของไทย  มาทดลองดำเนินการก่อน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังสั่งให้มีการพัฒนาการศึกษา ในระบบอาชีวะเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รายงาน ว่า มีการลงนามทวิภาคีระหว่าง สถาบันการศึกษาอาชีวะ และสมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกผู้ประกอบการอุตสากหรรมมากกว่า 8,000กิจการ โดยวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมช่วยสนับสนุนให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาสายอาชีวะ รวมถึงช่วยเสนอว่าต้องการบุคคลากรอาชีวะแบบใด เพื่อที่จะได้พร้อมเข้าทำงานหลังจบการศึกษา  ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับเพิ่มเติมว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเน้นการการสอนภาษาอังกฤษ ที่เกี่ยวกับช่างเฉพาะทาง