*แม่ทัพภาค 1 ชี้แจงเชิญตัว พยาบาลอาสา เกี่ยวปาระเบิดศาลอาญา *

การคุมตัว น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา พยาบาลอาสา และพยานปากคำสำคัญในคดี 6 ศพ วัดปทุมวนาราม  พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1  ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ชี้แจงถึงการทำหน้าที่ของกกล.รส.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เน้นย้ำให้ยึดหลักกฎหมายในทุกเรื่อง โดยให้ใช้ตำรวจเป็นหลัก ซึ่งกรณีของน.ส.ณํฎฐธิดา เป็นเรื่องการทำงานของชุดดำเนินคดี จากกรณีที่คนร้ายปาระเบิดที่ศาลอาญารัชดา การดำเนินคดีก็ต้องเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ถูกพาดพิงมาพูดคุย หากไม่เกี่ยวข้องก็ปล่อยตัวไป ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องและมีหลักฐานชัดเจนก็ส่งดำเนินคดีตามกระบวนการศาลยุติธรรม ดังนั้น จึงไม่มีการดำเนินการนอกกฎหมายเด็ดขาด

นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่ หากเข้าไปในพื้นที่กองกำลัง จะต้องแจ้งกองกำลังให้รับทราบว่าเข้ามาทำงานในพื้นที่ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปอยู่แล้ว ยกเว้นกรณีที่เป็นคดีลับ เขาก็ไปดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องแจ้งมาให้ กกล.รส.รับทราบ โดยเราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้กฎอัยการศึกแต่จะใช้กฎหมายปกติเป็นหลัก

ส่วนคดีของน.ส.ณัฎฐธิดา  ต้องไปถามตำรวจ ทุกอย่างว่าไปตามหลักฐาน เมื่อมีพยานเชื่อมโยงไปถึงใคร ตำรวจก็ต้องไปดำเนินคดี ซึ่งไม่จำเป็นต้องมารายงานให้ตนทราบ  พร้อมปฏิเสธถึงกรณีที่ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. และโฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาไปจากบ้านพัก แต่วันนี้ได้ออกมายอมรับว่ามีการนำตัวไปจริง โดยพล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า โฆษกเพียงแต่บอกว่า เขาต้องสอบถามหน่วยต่างๆ ซึ่งมันมีตั้งหลายหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ไม่ได้มีแค่ กกล.รส.อย่างเดียว ดังนั้นที่โฆษกพูดไม่ใช่ว่าเขาปฏิเสธ แต่เขามาชี้แจงแล้วว่าเขาตรวจสอบอยู่ ทั้งนี้ ในอนาคตการทำงานของหน่วยต่างๆ จะต้องแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น  โดยจะมีศูนย์รวมการทำหน้าที่ โดยผบ..ต้องรู้ทุกเรื่อง ที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากอาจเกิดความสับสน และเพื่อให้ประชาชนได้สบายใจ จะใช้อำนาจอะไรต้องชี้แจงให้ทราบชัดเจน จะไปอุ้มใครไม่ได้ อย่างนี้ถือว่าผิด 

แฟ่มภาพ