หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถึงกรณี นางสาว ณัฏฐธิดา มีวังปลา ที่มีข่าวว่าถูกทหารเชิญตัวมานั้น นายกฯก็ระบุว่า แค่เป็นการเชิญตัวมาคุยของกองทัพตามปกติ ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย โดยขอให้ฟังองค์ประกอบของหลายๆฝ่าย และยืนยันว่าทหารไม่ต้องการทำร้ายประชาชน โดยในเรื่องนี้ก็มีแม่ทัพภาค 1 ดูแลอยู่แล้ว พร้อมระบุว่าได้ลดความเข้มงวดของกฎอัยการศึกลงไปมาก และอยากให้ทุกคดีขึ้นศาลพลเรือนตามปกติ เว้นแต่คดีที่ส่งผลต่อความมั่นคงหรือสถาบันที่รุนแรงที่จำเป็นต้องขึ้นศาลทหาร ซี่งตัวเองคงยอมในคดีรุนแรงต่างๆมิได้ และหากอนาคตเหตุการณ์สงบมากขึ้น ก็จะผ่อนคลายกฎอัยการศึกลงตามด้วย
นายกฯยังระบุด้วยว่า ตัวเองจะไม่สนใจนักการเมืองในอดีตที่มักให้ข่าวเชิงสอนงานตัวเอง เพระหากเก่งจริงคงสามารถทำสำเร็จได้ตั้งแต่ยุคก่อนแล้ว ซึ่งเมื่อทำไม่ได้ก็เป็นความจำเป็นของตัวเองที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาทั้งระบบจากอดีตที่มีประชาธิปไตยบนปัญหาหลายประการ เช่น การค้ามนุษย์ การแบ่งแยกสีเสื้อ ซึ่งตัวเองก็ขอเวลาในการทำงาน เพราะมีปัญหามากและต้องใช้เวลานานในการแก้ไขก่อนจะส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ต่อไป พร้อมขอให้สื่อและประชาชนช่วยกันแก้ไขประเทศและอยู่อย่างสงบสักระยะในช่วงนี้ พร้มระบุว่ารู้ตัวดีว่าไม่ได้มาจากความสมัครใจของประชาชนผ่านการเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่องค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นเชิญตัวเองไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติในเดือนกันยายนตามวงรอบปกตินั้น ก็พร้อมที่จะไป ไม่ได้มีปัญหาใดและยืนยันว่าประเทศไทยมีศักดิ์ศรีในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งตัวเองก็ได้วางท่าที่ที่เหมาะสม ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวประเทศใด พร้อมระบุว่าที่พูดแหย่สหรัฐฯถึงเรืองเสื้อนั้น ตัวเองก็พูดเล่นไปตามปกติ ไม่ได้คิดอะไรพร้อมระบุว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในระบบตรวจตราตามสนามบินและท่าเรือ เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มไอเอสที่อาจแฝงตัวเข้ามาก่อการร้ายและเชื่อมั่นว่าคงไม่มีคนไทยเข้าร่วมกับขบวนการดังกล่าว
ส่วนปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ ได้มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ดูแล ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อปท. โดยรัฐบาลจะคอยควบคุมอยู่ห่างๆ ถือว่าเป็นการเริ่มกระจายอำนาจให้อปท.อย่างเต็มตัว ซึ่งอปท.ต้องรับผิดชอบเยอะขึ้นและต้องสร้างความเข็มแข็งให้ได้ โดยถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขและต้องทำงานอย่างบูรณาการ ซึ่งตัวเองก็ได้ให้แนวทางว่าสามารถไปศึกษาวิธีการแก้ไขของต่างประเทศและ มาตรการทั้งระยะสั้น กลาง ยาวดูแลอย่างเป็นระบบ พร้อมระบุว่าอาจจะต้องซื้อเครื่องบินที่สามารถบรรจุน้ำได้ลำใหม่ หลังเครื่องบินที่มีอยู่แม้จะบรรจุน้ำได้แต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นบินดับไฟได้แล้ว