EPPO Thailand สรุปสถานการณ์การใช้พลังงานไทย ช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565
-สถานการณ์พลังงานไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 การใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นสุดท้าย เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 เนื่องจาก เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 การใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้นในทุกประเภทพลังงาน โดยเฉพาะการใช้ลิกไนต์ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้น ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.8 จากการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวLNG ที่ลดลงในภาคการผลิตไฟฟ้าเพื่อรักษาระดับต้นทุนราคาไฟฟ้าให้เหมาะสมของรัฐบาล
สถานการณ์พลังงานรายเชื้อเพลิง ไตรมาสแรกของปี 2565
-การใช้น้ำมันสำเร็จรูป เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1
*การใช้น้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.4 เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และนโยบายการตรึงราคาให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ของรัฐบาล
*การใช้น้ำมันเบนซิน ลดลงร้อยละ 5.7 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ประกอบกับราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินที่อยู่ในระดับสูง
*การใช้น้ำมันเครื่องบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 54.7 เนื่องจาก มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ การผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบแล้วแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ (Test & Go)
*การใช้น้ำมันเตา เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้ในภาคขนส่ง และอุตสาหกรรม การใช้ LPG (โพรเพน และบิวเทน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 เป็นผลมาจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ภาคครัวเรือนและภาคขนส่ง
-การใช้ก๊าซธรรมชาติ ลดลงร้อยละ 3.4 จากการใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และการใช้เป็นเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในขณะที่การใช้ในภาคอุตสาหกรรม และการใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ (NGV) เพิ่มขึ้น
-การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 ส่วนใหญ่เป็นการใช้ที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรม และเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
-การใช้ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 โดยเฉพาะในสาขาครัวเรือน ธุรกิจ และอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจของประเทศที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการผ่อนคลายโควิด-19
แนวโน้มการใช้พลังงานปี 2565 ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) พยากรณ์โดยอ้างอิงสมมุติฐานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวร้อยละ 2.5 - 3.5 โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศ แนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
ความต้องการพลังงานขั้นต้น ปี 2565 คาดว่า อยู่ที่ระดับ 2,034 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับปี 2564 คาดการณ์ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกเว้นก๊าซธรรมชาติที่ได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก เหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้เกิดความไม่แน่นอนของอุปทานในตลาด
สนพ.ยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาพลังงานในตลาดโลก
#การใช้พลังงานไตรมาสแรก
CR:EPPO Thailand