เรือนจำเท็กซัสระงับการขนย้ายผู้ต้องขัง หลังเกิดเหตุหลบหนีแล้วไปก่อเหตุฆ่า 5 ศพ

          เรือนจำเท็กซัส ระงับการขนส่งผู้ต้องขังเป็นการชั่วคราว เพื่อทบทวนขั้นตอนการทำงาน หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องขังกอนซาโล โลเปซ วัย 46 ปี ทำร้ายคนขับรถบัส แล้วหลบหนีไปก่อคดีฆ่าคุณตากับหลานรวม 5 ราย โดยในประกาศของเรือนจำ ระบุว่า จะจัดการขนส่งเฉพาะในกรณีจำเป็น เช่น การปล่อยตัวหรือการนัดหมายทางการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งจะมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม

          นายจอห์น วิตเมียร์ วุฒิสมาชิกจากรัฐเท็กซัส กล่าวว่า เท็กซัสจะระงับการขนส่งผู้ต้องขังไปจนกว่าจะมีมาตรการป้องกันที่รัดกุม โดยเขาเสนอให้มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ติดอาวุธ 3 คน บนรถบัสของผู้ต้องขัง พร้อมให้มีรถติดตามอีก 1 คน จากที่ในปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่เพียง 2 คนบนรถบัส และไม่มีรถติดตาม ในขณะที่จะเร่งรัดการสอบสวนเกี่ยวกับการหลบหนีและการฆาตกรรมสมาชิกครอบครัวของนายมาร์ค คอลลินส์ 5 คน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่สังคม

          นายโลเปซ เป็นผู้ต้องขังในคดีฆ่าและพยายามฆ่าต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ขณะที่เขาถูกส่งตัวจากเกตส์วิลล์ไปยังฮันต์สวิลล์เพื่อพบแพทย์ แต่ในระหว่างที่รถหยุดจอด เขาพังกรงภายในรถแล้วแทงคนขับรถ จากนั้นขับรถหลบหนีออกไป จนถึงเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายโลเปซ บุกรุกเข้าไปในบ้านของนายคอลลินส์ ในลีออนเคาน์ตี้แล้วสังหารนายคอลลินส์กับหลานทั้ง 4 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 11 ถึง 18 ปี โดยขโมยเสื้อผ้า อาวุธปืน และรถยนต์ของนายคอลลินส์ไปด้วย เจ้าหน้าที่ประกาศเงินรางวัลนำจับ 50,000 ดอลลาร์ ซึ่งในคืนเดียวกันนั้นเอง เจ้าหน้าที่ติดตามไปจนพบตัวนายโลเปซ ในจุดที่ห่างจากบ้านนายคอลลินส์ เกือบ 250 ไมล์ มีการยิงปะทะกัน และนายโลเปซ ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม แต่เจ้าหน้าที่ของเท็กซัสก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากการที่ใช้เวลาหลายวันกว่าที่จะควบคุมตัวคนร้ายได้ ทั้งเขายังมีการก่อเหตุซ้ำ

...

#เรือนจำเท็กซัส

#นักโทษหลบหนี