นายเทตสึโอะ ไซโตะ รัฐมนตรีกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะขอให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์เข้าไปเที่ยวในญี่ปุ่นสวมหน้ากากอนามัย เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะกรณีไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนแออัด และแนะนำให้นักท่องเที่ยวทำประกันสุขภาพเผื่อไว้ลดค่าใช้จ่ายในกรณีติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มเปิดรับนักเที่ยวจาก 98 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่ำที่สุด เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ จีน เกาหลีใต้ อินโดนีเซียและประเทศไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนนี้
รัฐมนตรีการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้ประชุมกับตัวแทนจากบริษัทนำเที่ยวและผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในวันนี้ ทำความเข้าใจเรื่องแนวทางการปฏิบัติในการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ก่อนเปิดประเทศในวันศุกร์นี้ ด้านสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JTA)แนะนำให้บริษัทนำเที่ยวจัดหามัคคุเทศก์คอยดูแลนักท่องเที่ยวตลอดระยะการอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการจัดโครงการนำร่องในเดือนที่แล้ว เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยให้นักท่องเที่ยวจากบางประเทศเช่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์และประเทศไทย ซื้อแพ็กเกจทัวร์เข้าไปเที่ยวกลุ่มละไม่เกิน 50 คน มีนักท่องเที่ยวเพียงหนึ่งคนจากบริษัทนำเที่ยวของประเทศไทยพบนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่เคร่งครัดเรื่องการควบคุมชายแดนมากที่สุดในโลก ตลอดช่วงการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปิดประเทศมาเกือบสองปีแล้ว ห้ามชาวต่างชาติที่ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่งในญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2562 หรือก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 31.9 ล้านคน ใช้จ่ายเงินระหว่างท่องเที่ยวในญี่ปุ่นรวม 4.81 ล้านล้านเยน
#ญี่ปุ่น
#ฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
#เปิดประเทศ