ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้(8 มิ.ย.65) คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่าทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกเป็นช่วงขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ โดยขอให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทย เป็นเรื่องของกนง.ที่ผ่านมา กนง.มีการพูดชัดเจนว่า การจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นหรือไม่ ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงการฟื้นตัว ดังนั้น กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ
-ต้องรักษาไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศจนเกินไป
-ไม่สร้างต้นทุนให้ผู้ประกอบการจนส่งผลกระทบต่อการผลิตและเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทย มั่นใจตัวเลขปีนี้จะเติบโตได้ 3% ภาคส่งออก ยังเป็นพระเอกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเนื่องจาก ตั้งแต่ปี 2564 การส่งออกขยายตัวได้ดี ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1/2565 ที่การส่งออกขยายตัวสูงถึง 15% กระทรวงการคลัง หารือกับภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องถึงทิศทางและแนวโน้มการส่งออกของไทย เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาสงครามการค้า และปัญหาความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครน ภาครัฐได้เตรียมเครื่องมือไว้แล้ว มอบหมายให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เตรียมสภาพคล่องวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคการส่งออกในทุกกลุ่มให้มีสภาพคล่องเพียงพอเพื่อดำเนินธุรกิจ
#รัฐมนตรีคลัง
#อัตราดอกเบี้ย
แฟ้มภาพ