นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 5 ว่ายังไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการ เนื่องจาก ข้อมูลยังไม่เพียงพอ ขอดูรายละเอียดก่อน การพิจารณาฉีดเข็มที่ 5 ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และแพทย์วินิจฉัย เช่น เดินทางไปต่างประเทศ คนที่แพ้วัคซีนบางตัว คนที่ภูมิคุ้มกันไม่ขึ้นและมีโรคประจำตัว
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำและให้ความสำคัญ การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น คือ เข็มที่ 3 และเข็มที่ 4 เพื่อรองรับการเปิดประเทศ ผ่อนคลายการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จะต้องมีประชาชนฉีดเข็มกระตุ้นแล้วอย่างน้อย 60%
จากการติดตามข้อมูล พบว่า จังหวัดที่ฉีดเข็มกระตุ้นได้มากส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง คนในพื้นที่อำเภอเมืองฉีดครบ ส่วนคนที่อยู่ในพื้นที่ชนบท ห่างไกล บางอำเภอฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ไม่ถึง 10% ขอให้วิเคราะห์ลงลึกเป็นรายอำเภอ
ขณะที่ องค์การอนามัยโลก(WHO) แนะนำความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดอัตราการเสียชีวิต
กระทรวงสาธารณสุข และศบค. มีกลไกการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทั้งชนิด ปริมาณ จำนวน และกลุ่มเป้าหมายในการฉีด ผ่านคณะกรรมการหลายชุด เช่น คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ศปก.สธ. และ ศบค.ที่เป็นผู้อนุมัติสุดท้าย
-แผนของปี 64 จัดซื้อทั้งหมด 121 ล้านโดส ฉีดได้ 104.4 ล้านโดส
-แผนของปี 65 จัดซื้อ 120 ล้านโดส มีการอนุมัติจาก ศบค. และ ลงนามซื้อแล้ว 90 ล้านโดส ส่งมอบ 36 ล้านโดส ฉีดแล้ว 34 ล้านโดส
ปีหน้าจะต้องฉีดต่อ หรือจะต้องฉีดประจำทุกปี นพ.โอภาส กล่าวว่า อยู่ในแผนดำเนินการ ยังไม่สามารถบอกได้ เตรียมการสั่งซื้อและสำรองไว้ในปีหน้าถ้าจำเป็นต้องฉีดทุกปี เช่นปี 65 ที่จัดซื้อ 120 ล้านโดส ตอนนี้เรานำเข้ามา 36 ล้านโดส ดังนั้นส่วนที่เหลือจะสำรองไว้ปีหน้า หรือเพื่อฉีดเป็นการกระตุ้นทุกปี และไทยยังได้รับบริจาคจากมิตรประเทศ ขณะที่ไทยได้บริจาควัคซีนช่วยเหลือเพื่อนบ้านและประเทศในแอฟริกา
คนที่ไม่อยากฉีด ได้มีการวิเคราะห์ มีการสำรวจ พบว่า กลัวผลข้างเคียง ไม่มั่นใจในตัววัคซีน จึงขอให้สร้างความมั่นใจ ขณะที่เชื่อว่า สายพันธุ์โอไมครอนไม่รุนแรงเทียบกับเดลตาจึงไม่จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้น นพ.โอภาส กล่าวว่า แม้จะไม่รุนแรงเท่า แต่ทำให้กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตได้ และการเดินทางลำบากก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คนไม่ไปฉีดวัคซีน จะต้องกระจายวัคซีนไปให้ถึงใกล้บ้านมากขึ้น และไม่ควรลดวันฉีดวัคซีน ขอให้ฉีดทุกวัน
ด้าน นพ.สุเทพ เพชรมาก หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มีอีก 2 ล้านคน ยังไม่ได้รับเข็มที่ 1 ดังนั้นการเปิดกิจกรรมต่างๆ ได้ ต้องได้เข็มที่ 3 อย่างน้อยร้อยละ 60 โดยข้อมูลขณะนี้เราต้องเพิ่มเข็มที่ 1 อีก 9-10 ล้านโดส ต่อด้วยเข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 ที่ต้องฉีดอีก 15 ล้านโดส ดังนั้น เป้าหมายที่ต้องดำเนินการ คือ ฉีดเพิ่มอย่างน้อย 30 ล้านโดส
#วัคซีนเข็มกระตุ้น
#วัคซีนเข็ม 5