ความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ เหตุการณ์ล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันเสาร์ที่ 4 มิ.ย.65 เกิดเหตุกราดยิงที่ถนนเซาท์ สตรีท ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีก 11 คน ตำรวจ เชื่อว่ามีมือปืนหลายคน ตอนนี้ยังจับไม่ได้
สารวัตร ดี.เอฟ. เพซ เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า มีตำรวจลาดตระเวนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดในช่วงก่อนถึงเที่ยงคืนวันเสาร์ เจ้าหน้าที่นายหนึ่ง ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุยิงปืนใส่ผู้ต้องสงสัย แต่ไม่แน่ใจว่าโดนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องสงสัยทิ้งปืนแล้วหลบหนีไป
ตำรวจพบปืน 2 กระบอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ หนึ่งกระบอกมีแม็กกาซีนยาวพิเศษ และพบปลอกกระสุนเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย ถนนเซาท์ สตรีท เป็นย่านบันเทิงในฟิลาเดลเฟียโดยมีร้านอาหารและบาร์อยู่มากมาย และมักมีผู้คนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก
ส่วนที่เมืองชัตตานูกา รัฐเทนเนสซี มีรายงานเหตุยิงกราดใกล้บาร์แห่งหนึ่งเมื่อคืนวันเสาร์เช่นกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 14 คน โดย 2 คนเสียชีวิตจากอาวุธปืน และอีกหนึ่งคนเสียชีวิตจากการถูกรถชนขณะวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุ ขณะที่ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกหลายคน
เหตุรุนแรงจากอาวุธปืนล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากเพิ่งเกิดเหตุการณ์ยิงกราดที่โรงเรียนประถมศึกษาในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส และที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้การถกเถียงเรื่องกฎหมายอาวุธปืนในอเมริกาถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง
เฉพาะในปีนี้ เกิดเหตุยิงกราดในสหรัฐฯ แล้วอย่างน้อย 240 ครั้ง อ้างอิงจากข้อมูลของกลุ่ม Gun Violence Archive โดยคำนิยามของ "เหตุยิงกราด" คือมีผู้ถูกยิงอย่างน้อย 4 ราย ไม่รวมตัวผู้ก่อเหตุ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้รัฐสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายห้ามซื้อขายอาวุธปืนร้ายแรง เพิ่มการตรวจสอบประวัติผู้ซื้อปืน รวมทั้งเพิ่มมาตรการควบคุมการซื้อขายอาวุธปืนให้เข็มงวดยิ่งขึ้น
#กราดยิงย่านบันเทิง
#ฟิลาเดลเฟีย
#สหรัฐฯ