รองนายกรัฐมนตรี ระบุคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์ เครดิตฯ ยังไม่จบ

กรณีวัดพระธรรมกายตั้งกองทุนเยียวยาเฉพาะกิจเพื่อรวบรวมเงินคืนให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นเป็นเงินกว่า 684 ล้านบาทนั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า เรื่องนี้สามารถแบ่งการดำเนินคดีได้เป็น 3 ส่วน คือ คดีอาญาข้อหาฉ้อโกงประชาชนและคดีอาญาข้อหายักยอกทรัพย์ โดยคดียักยอกทรัพย์สามารถยอมความได้ แต่คดีฉ้อโกงไม่ยอมความไม่ได้ แม้สหกรณ์ฯ จะไม่ติดใจเอาความก็ตาม ส่วนคดีที่สองคือ กรณีสหกรณ์ฟ้องเรียกเงิน 684 ล้านบาทจากวัดพระธรรมกายและพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งถือว่าสิ้นสุดแล้ว เพราะมีการแบ่งจ่ายเงินไป 6 งวด ส่วนคดีสุดท้ายคือ คดีล้มละลายของสหกรณ์ฯ ซึ่งจะต้องดำเนินการไต่สวนคดีต่อไปภายใน 45 วัน

ส่วนการที่วัดพระธรรมกายจัดตั้งกองทุนเยียวยามารับบริจาคเงินเพื่อนำไปคืนสหกรณ์ฯ ก็ถือว่าเป็นเจตนาดีและสามารถทำได้ ซึ่งทำให้การเจรจาไกล่เกลี่ยเมื่อวานนี้จบลงด้วยดี

อย่างไรก็ตาม นาย วิษณุ ระบุว่า การที่สหกรณ์ได้เงินคืนมาเป็นแค่ความสำเร็จส่วนหนึ่ง ยังไม่ถือว่าประสบผลสำเร็จทั้งหมด เพราะเงินที่ออกไปจากสหกรณ์มีกว่า 16,000 ล้านบาท ไม่ใช่แค่ 684 ล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งหาทางนำเงินคืนมาให้มากที่สุดเพื่อนำไปเยียวยาสมาชิก โดยขณะนี้ทราบว่าเงินจำนวน 16,000 ล้านบาทถูกถ่ายโอนไปยังที่ต่างๆ กว่า 20 แห่ง แบ่งได้เป็น 6 กลุ่ม และรัฐบาลกำลังเร่งติดตามคดีอยู่ 

...ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร