น.ส.คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯชื่นชมภาวะผู้นำของกษัตริย์ซัลมานและเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ในการผลักดันให้คู่ขัดแย้งของเยเมนตกลงขยายระยะเวลาการทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ระบุว่า ทั้งกษัตริย์ซัลมานและเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ควรได้รับการยอมรับสำหรับบทบาทในเรื่องนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายไบเดนจะไปเยือนกรุงริยาดห์ ปลายเดือนนี้
น.ส.ฌอง-ปิแอร์ กล่าวว่าการยุติการสู้รบในเยเมนไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้าไม่มีการประสานความร่วมมือทางการทูตจากทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งสหรัฐฯชื่นชมภาวะผู้นำของพระราชวงศ์แห่งซาอุดิอาระเบียที่ช่วยผลักดันให้การทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในเยเมนดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
แต่น.ส.ฌอง-ปิแอร์ ไม่ได้ยืนยันว่านายไบเดนจะไปเยือนซาอุดิอาระเบียปลายเดือนนี้หรือไม่ ระบุเพียงว่า ประธานาธิบดีไบเดนให้ความสำคัญมากที่สุดกับกระชับสัมพันธ์กับผู้นำต่างชาติ รวมทั้งซาอุดิอาระเบีย เพื่อจะหารือเรื่องแนวทางต่างๆในการขับเคลื่อนผลประโยชน์ของสหรัฐฯให้มีความคืบหน้าต่อไป
ด้านแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายไบเดนมีแผนจะไปเยือนกรุงริยาดห์ ปลายเดือนนี้ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ซึ่งเป็นองค์กรความมั่นคงระดับภูมิภาค มีสมาชิกเช่น บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเฉพาะการเยือนซาอุดิอาระเบียมีขึ้นในช่วงเวลาที่นายไบเดนพยายามจะหาวิธีการต่างๆเพื่อให้มีสถานการณ์น้ำมันโลกปรับตัวลดลง
กระแสข่าวการเยือนซาอุดิอาระเบียของนายไบเดน ทำให้กลุ่มโอเปกพลัสมีมติเมื่อวาน เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก200,000 บาร์เรลในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ มาอยู่ที่่ระดับกว่า 6 แสนบาร์เรลต่อวัน #สหรัฐฯ
#ซาอุดิอาระเบีย
#โอเปกพลัส