นางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน แห่งตุรกี ประกาศเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารเพื่อปราบปราม 'กลุ่มก่อการร้าย' ชาวเคิร์ด ในพื้นที่ทางเหนือของประเทศซีเรีย คือการละเมิดต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย และจะเป็นทำให้สถานการณ์ในซีเรียทวีความรุนแรงขึ้นอีก
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียเข้าใจความกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติที่มาจากพื้นที่ชายแดนติดต่อกับซีเรีย แต่การแก้ไขปัญหาต้องเป็นหน้าที่ของทหารซีเรียตามที่มีข้อตกลงทางหารไว้ก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงข่าวร่วมกับนายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ว่าปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในซีเรียคือการเพิ่มความเสี่ยงในภูมิภาคนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคง
เป็นเวลาประมาณ 1 หนึ่งสัปดาห์แล้วที่ประธานาธิบดีตุรกี ประกาศแผนปฏิบัติการทางทหารเพื่อกวาดล้างกลุ่มนักรบของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน หรือพีเคเค และนักรบของกลุ่มพิทักษ์ประชาชน หรือวายพีจี ซึ่งเป็นกลุ่มชาวซีเรีย-เคิร์ดที่ตุรกีระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพีเคเค โดยเมื่อวันพุธ (1 มิ.ย.) มีการประกาศจัดตั้งเขตรักษาความปลอดภัย 30 กม. (19 ไมล์) ตามแนวชายแดนทางใต้ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารใน 2 เมืองทางเหนือของซีเรีย ทั้งประกาศว่าจะมีปฏิบัติการทางทหารในเมืองอื่นๆ ต่อไป
ตั้งแต่ปี 2559 ตุรกีมีปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ทางเหนือของซีเรียแล้ว 3 ครั้งและมีการยึดพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส และกลุ่มวายพีจี
และกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือเอสดีเอฟ ที่มีความเชื่อมโยงกับวายพีจี เตือนว่าปฏิบัติการทางทหารของตุรกีจะเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย
....
#รัสเซีย
#ตุรกี